เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๗
ทุกท่านขยับตั้งกายให้ตรง กำหนดสติเอาไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดจับอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะจับการกระทบฐานเดียว สามฐาน เจ็ดฐาน หรือว่ารู้ตลอดกองลมก็ได้ จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ สำหรับการเจริญกรรมฐานนั้น เราจะทิ้งลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เมื่อภาวนาตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก จนกำลังใจเริ่มทรงตัวแล้ว ก็มาพิจารณาทบทวนศีลของเรา ว่าภายในวันนี้ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา จนถึงปัจจุบันขณะนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ศีลข้อใดของเราได้บกพร่องไปบ้าง ?
เราได้ฆ่าสัตว์หรือทำร้ายสัตว์ให้เจ็บโดยเจตนาหรือไม่ ? เราได้ลักขโมยหรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้หรือไม่ ? เราใจเร็วด่วนได้ละเมิดของที่เขารัก คนที่เขารักหรือไม่ ? เราได้โกหกมดเท็จหรือไม่ ? เราได้ดื่มสุราเมรัย หรือเสพยาเสพติดบ้างหรือไม่ ?
ถ้าศีลของเราข้อใดข้อหนึ่งขาดตกบกพร่อง ก็ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ แล้วตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลของเราต่อไป การรักษาศีลนั้นสำคัญที่การงดเว้น มีโอกาสแล้วไม่ล่วงละเมิดจึงเรียกว่าศีล ไม่ใช่ว่าต้องอาราธนาศีล ต้องสมาทานศีลถึงจะเป็นศีล การอาราธนาเป็นการขอร้องให้พระภิกษุสงฆ์บอกเราว่าศีลมีอะไรบ้าง การสมาทานก็คือการศึกษาว่าศีลแต่ละข้อคืออะไร ถึงอาราธนาศีลแล้ว สมาทานศีลแล้ว แต่ถ้าไม่มีเจตนางดเว้นก็ยังคงไม่มีศีล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2014 เมื่อ 13:47
|