อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี
มีอยู่ปีหนึ่งเขาเอารูปป่ากับเมืองมาประกบกันหน้าต่อหน้า แล้วเขาก็ดันแต่งกลอนได้ อันนั้นเชื่อว่าเขาเอารูปมาก่อน เพราะไม่อย่างนั้นเนื้อหาจะไปกันไม่ได้ แดดฉ่ำและน้ำชื่น หมื่นภูสูง ยูงรำแพน เป็นรูปป่าห้วยขาแข้ง โปรยดอกประดับแดน ประดิษฐานพระสัทธรรม ดอกไม้กำลังโปรยเกลื่อนเต็มพื้นที่อยุธยา ถ่ายออกไปแล้วเห็นรูปพระอยู่กลางซากปรักหักพัง
ป่าใหญ่จักเป็นเหย้า ลำห้วยเย็นให้ย่างย่ำ เป็นรูปช้างกำลังลุยไปในลำห้วย แล้วต่อมาก็เป็น "ยืนยงอยู่คงย้ำ สถิตอารยะยุค" ภาพอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โลดเริงกระเจิงผัน ราวป่าลั่นประเลงปลุก รูปนี้เป็นรูปสัตว์ป่าที่ถ่ายได้สวยที่สุด เก้งกำลังตื่นหนีคน ไม่รู้คุณดวงดาว สุวรรณรังสีจับจังหวะถ่ายอย่างไร เก้งกำลังพุ่งลอยอยู่ทั้งตัวแล้วเขาถ่ายได้พอดี แล้วชัดมาก ไม่ใช่ภาพเบลอ ๆ ด้วย
อีกรูปหนึ่งก็เป็นรูปพระธุดงค์ น่าจะเป็นของวัดพระธรรมกาย กำลังจุดโคมอยู่ในกลดมืด ๆ แล้วเลยไปข้างหลัง เห็นเจดีย์เก่า ๆ หัก ๆ ส่องทางให้สร่างทุกข์ รำงับทุกข์อิริยา แล้วภาพต่อไปก็เป็นลำห้วย น้ำกำลังไหลริน ๆ ร่วงเพชรระรินพลอย เป็นสร้อยน้ำประจำผา แล้วก็เป็นรูปสระบัวที่อยู่ด้านหลัง น่าจะเป็นตระพังเงินตระพังทอง แล้วก็ถ่ายออกไปข้างหน้าที่เป็นอยุธยา เบิกช่อขึ้นบูชา ประชุมชัย ณ ใจชน
|
สาดแสงสำเริงไพร ระบายใบ ระบัดบน
ปลุกอดีตบันดาลดล ด้วยเรื่องราวของแผ่นดิน
ปรางค์ธาตุสถูปสถาน ดวงวิญญาณพระธรณินทร์
โลกนี้คือชีวิน คือวิญญาณ อมรรตรัย
จากกระทู้นี้ :
http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=3270&page=2
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
|