...ศีล นำให้เกิดความสุข...
...ศีล ยังทรัพย์มาให้...
...ศีล เป็นหนทางสู่พระนิพพาน...
***********************
* บันทึกความทรงจำ - คุณครูหญิง *
***********************
จดหมายฉบับที่ ๒๔.๓-๒๔.๔ / ๑ ก.ย. ๒๙
รูปพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และยันต์เกราะเพชร
เป็นภาพเก่าเก็บ ตัดจากหนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งในยุคนั้น
**************************************
วัดท่าซุง อุทัยธานี ๖๑๐๐๐
๑ กันยายน ๒๕๒๙
น้องหญิงจ๊ะ...
คราวหน้าถ้ากำลังสอบอยู่ ไม่ต้องรีบตอบจดหมายนะจ๊ะ มีเวลาแล้วค่อยตอบ หลวงพี่ขออวยพรให้หญิงดูหนังสือตรงกับข้อสอบที่ออกจะได้ติดเอ.เยอะ ๆ ตัดเกรดเมื่อไรขอไม่มาก สัก ๔ ก็พอ ดีไหม...? ต่อไปเป็นรายละเอียดเรื่อง “ยันต์เกราะเพชร” จ้ะ
ยันต์เกราะเพชรเป็นตำราตกทอดมาจากสมัยพระร่วง เป็นการอาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุ้มครองผู้รับยันต์แล้ว อานุภาพยันต์เกราะเพชรคือ
๑. ป้องกันการกระทำทางไสยศาสตร์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นคุณผี-คุณคน คาถาอาคม วัตถุอาถรรพ์ ฯลฯ ไม่สามารถทำอันตรายผู้รับการ “เป่า” ยันต์เกราะเพชรได้เลย
๒. จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษทุกชนิด ฯลฯ
ยันต์เกราะเพชรจะมีอานุภาพคุ้มครองผู้รับยันต์ได้ ต่อเมื่อรับยันต์ไปแล้วไม่ขาดจากศีล ๕ หรืออย่างแย่ที่สุดศีล ๒ ข้อต้องไม่ขาดคือ
๑. อทินนาทานาฯ เว้นจากการหยิบฉวยของที่เจ้าของยังไม่ได้ให้ทุกชนิด คือ เว้นจากการลักขโมยนั่นเอง
๒. สุราเมรยะฯ เว้นจากการดื่มสุราเมรัยทุกชนิด
ถ้าศีลอย่างน้อย ๒ ข้อไม่ขาด ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มภัยดังกล่าวได้แน่นอน ผู้รับยันต์เกราะเพชรจะพิสูจน์ผลการรับยันต์ได้คือ
๑. ผู้หญิงท้องลูกคนแรก ถ้าไปรับยันต์มา คลอดลูกถ้าเป็นผู้ชายจะมียันต์ติดที่กระหม่อม หัวไหล่ มือ-เท้า อย่างน้อยสามวันจึงจะเข้าไปในกายหมด
๒. ผู้รักษายันต์ไว้ได้ เมื่อตายแล้วเผา เก็บกระดูกมาดูจะเห็นยันต์เกราะเพชรติดอยู่ที่กระดูกที่เผาไม่หมด
วันเป่ายันต์เกราะเพชรจะทำได้เฉพาะวันเสาร์ห้าเท่านั้น (วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนใดก็ได้) บางปีมีเสาร์ห้า ๑ วันบ้างสองวันบ้าง บางปีก็ไม่มีเลย บางทีหลาย ๆ ปีจึงจะมีสักวัน ของอย่างนี้หญิงอย่าเพิ่งเชื่อนะจ๊ะ จนกว่าจะได้พิสูจน์เองเสียก่อน
สำหรับหลวงพี่เชื่อ ๑๐๐% เพราะพิสูจน์แล้วทุกรูปแบบว่า ยันต์เกราะเพชร “ดีจริง” จึงเชื่อ...โดยปกติหลวงพี่เชื่อยากในทุกเรื่อง แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าเชื่อได้ หลวงพี่ก็เชื่อสนิทใจ ไม่กลัวใครหัวเราะเยาะด้วย ยันต์เกราะเพชรมีรูปร่างอย่างที่ส่งมานี่แหละจ้ะ ซึ่งก็คือบทอิติปิโส สรรเสริญพุทธคุณนั่นเอง อ่านลงแบบหนังสือจีน จากซ้ายไปขวา (จีนจริง ๆ อ่านจากขวาไปซ้าย) ถ้าอ่านขวางแบบทั่วไปจะเป็น “อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา” ฯลฯ
ผู้รับยันต์ไปแล้วเห็นผลมากก็บอกต่อ ๆ กัน เวลามีงานทีคนจึงไปกันเป็นแสน จากเหนือสุด-ใต้สุด ทั่วประเทศ เล่นเอาเวลามีงานที บรรดาหลวงพี่เหนื่อยแทบตายทุกที ปีหน้ามีงานวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๓๐ จ้ะ
ตอบภายนอก-ภายใน
ภายนอก
สิ่งที่สัมผัสด้วยประสาททั้ง ๕ ถือเป็นบรรทัดฐานไม่ได้เพราะสามารถปรุงแต่งลวงกันได้
ภายใน
ใจมีหนึ่งเดียว แต่สิ่งรู้ไม่เคยมากกว่าสิ่งที่ไม่รู้
โลกภายนอก แสนกว้างใหญ่ ใครก็รู้
โลกภายใน ลึกซึ้งอยู่ รู้บ้างไหม
อยากมองโลก แต่ภายนอก มองออกไป
อยากมองโลก ภายในใจ ให้มองตน ฯ.
จากใจจริง
สุธมฺมปญฺโญ