ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 01-07-2014, 15:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,397
ได้ให้อนุโมทนา: 157,996
ได้รับอนุโมทนา 4,479,736 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๗

ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่สบายและถนัดของตนเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า คือเอาความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ วันนี้ได้กล่าวถึงเรื่องราวสมัยเก่า ๆ หลายเรื่องด้วยกัน จึงอยากจะนำเอาแนวทางในการปฏิบัติของอาตมาเองในสมัยต้น ๆ มากล่าวไว้ในที่นี้ เผื่อว่าใครเห็นดีเห็นงาม อยากจะปฏิบัติตามแนวนั้นก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาค้นคว้าด้วยตนเอง

ในสมัยนั้นการเริ่มต้นปฏิบัติก็จะเป็นการกราบพระสวดมนต์เสียก่อน หลังจากนั้นก็สมาทานพระกรรมฐาน นึกทบทวนศีลของตนเองทุกสิกขาบท ถ้าหากว่ามีข้อใดขาดตกบกพร่องก็จะตั้งใจว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะมีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ แล้วก็เริ่มภาวนาจับลมหายใจเข้าออก คำภาวนาก็ใช้ง่าย ๆ คือพุทโธ

โดยลมหายเข้าออก คืออานาปานสตินั้น เป็นพื้นฐานใหญ่ของกองกรรมฐานทั้งปวง ต้องบอกว่าเป็นแม่บทของกรรมฐาน ใครภาวนาโดยไม่จับลมหายใจ ชีวิตนี้อย่าหวังเลยว่าจะประสบความสำเร็จในด้านสมาธิภาวนา ส่วนที่ควบกับพุทธานุสติ เพราะว่าพระพุทธโฆสาจารย์ผู้รจนาวิสุทธิมรรค ท่านยืนยันเอาไว้ในตำราวิสุทธิมรรคว่า พุทธานุสติเป็นกองกรรมฐานที่ช่วยให้เข้าสู่พระนิพพานได้ง่ายที่สุด ซึ่งเมื่อปฏิบัติไปจนถึงระยะหลังอาตมาจึงเชื่ออย่างแท้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2014 เมื่อ 17:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา