พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีสีผึ้งหลวงปู่ครูบาอ่อนอยู่ครึ่งตลับ เพราะว่าตอนนั้นหลวงปู่ครูบาอ่อนท่านชวนไปปิดทองหลวงปู่ครูบาครอง ผู้เฒ่าท่านยกย่องกันเอง หัวเราะกันซะไม่มี ไปถึงก็กราบงาม ๓ ทีขออนุญาตเปิดสบง หลวงปู่ครูบาครองก็ถามว่าทำไม ? หลวงปู่ครูบาอ่อนท่านบอกว่า “พระผู้เฒ่าทรงความดีพอที่จะปิดทองบูชาได้แล้ว” แล้วท่านก็ส่งขี้ผึ้งให้อาตมาตลับหนึ่ง ช่วยกันถูช่วยกันทาเป็นการใหญ่ แล้วท่านก็ปิดทองตั้งแต่หัวเข่าไปยันหน้าแข้งเลย
เสียดายหลวงปู่ครูบาครองท่านอายุมากขนาดนั้น จึงไม่กล้านิมนต์ท่านไปงานที่วัด ครั้งล่าสุดปีก่อนที่ส่งฎีกาไปก็บอกหลวงพี่เอกแล้วว่า ถ้าหลวงปู่ไม่สะดวกด้วยธาตุขันธ์ไม่จำเป็นต้องมา นึกแล้วก็ขำ ๆ หลวงปู่ท่านเป็นผู้เฒ่าที่น่ารักมาก ถึงเวลาไปกราบลาท่านทีไร กราบ ๆ พอทำท่าจะขยับลุกท่านก็กอดหมับ คนเห็นก็เฮกัน แต่ถ่ายรูปไม่ค่อยจะทัน
จริง ๆ ถ้าอยู่ใกล้จะไปอยู่อุปัฏฐากดูแลท่านเลย เพราะว่าเคยชินกับการดูแลพระผู้ใหญ่มา ตั้งแต่หลวงปู่องค์นั้นองค์นี้จนถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง แม้กระทั่งหลวงพ่อวัดท่ามะขาม จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็เจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ก็เหมือนกัน เลขาท่านส่วนใหญ่ปล่อยให้ท่านเดินจากรถไปจนถึงที่ แล้วท่านเป็นอัมพฤกษ์ไปซีกหนึ่ง ท่านคิดอยู่อย่างเดียวว่าพระผู้ใหญ่จะแสดงความอ่อนแอไม่ได้ เดี๋ยวถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าทำงานไม่ได้แล้วจะปลดออกจากตำแหน่ง โอ๊ย..ใครจะไปหวงตำแหน่ง เจ็บไข้ได้ป่วยปานนั้น ถ้าคนนั้นรับไปได้เร็วเท่าไหร่ก็ดีเท่านั้น ฉะนั้น..ของอาตมาเห็นเมื่อไรก็วิ่งเข้าไปประคองท่านก่อน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2014 เมื่อ 17:37
|