ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : พอภาพไฟเป็นดวงแก้วก็ให้อธิษฐาน ขอให้เกิดแสงไฟขึ้นในบ้านก็ได้ หรือถ้าไม่มีอะไร มีอะไรก็ขอให้ติดไฟขึ้นมาก็ได้ เปลวไฟที่เกิดขึ้นเราบังคับได้ทุกอย่าง ต้องการให้ติดอยู่ที่ไหน ให้ทำอันตรายหรือไม่ทำอันตรายสิ่งใด จะเป็นไปตามความต้องการของเราทั้งหมด ฉะนั้น..ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ ใช้กสิณไฟเป็นหลัก ไม่ต้องเปลืองค่าไฟดี ถ้ายังไม่สามารถทำได้ ยังไม่ถือว่าสำเร็จกสิณ จับเฉพาะกองจนกว่าเราจะอธิษฐานใช้ผลได้จริง ๆ พอเราอธิษฐานใช้ผลได้แล้ว ค่อยเปลี่ยนกองถัดไป ไม่อย่างนั้นแล้วเหมือนเราโดนหลอกให้หลงทาง ทำอันนี้ แล้วทำอันโน้น ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตลอด ไม่ได้จริงสักอันหนึ่ง ถ้าตายก่อนก็เสียท่า
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ถ้าไม่จำเป็นก็ปิดห้อง เพราะคนที่ไม่เข้าใจจะหาว่าเราบ้า บอกท่านว่าขอทีละอย่าง ขอทีละอย่างให้ได้จริง ๆ ก่อน ไม่อย่างนั้นครูเยอะเกินไปต่างคนต่างสอน ลูกศิษย์ก็ตายพอดี
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ฝึกกสิณก่อน พอได้กสิณตามที่ต้องการแล้ว ต่อไปเราก็ใช้คำภาวนาของท่านให้เป็นปกติไปเลย การฝึกกสิณ เวลาทั้งวันและทั้งคืน ต้องประคับประคองให้อยู่กับนิมิตและคำภาวนานั้น ๆ จนกว่าจะได้อย่างแท้จริงแล้ว ชนิดนึกเมื่อไรก็ปรากฏเมื่อนั้น อธิษฐานใช้ผลเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น ถึงจะเรียกว่าได้ผลจริง ๆ การฝึกกสิณจะยากแค่กองแรกเท่านั้น ถ้ากองแรกได้แล้ว กองอื่นง่ายเพราะว่าใช้กำลังเท่ากัน เพียงแต่เปลี่ยนกองเท่านั้น ถ้ากองแรกได้แล้ว กองอื่นไม่เกิน ๗ วันก็ได้หมด แล้วหลังจากนั้นค่อยไปยึด อิติสุคโต ตามที่ท่านบอก
ถาม : หากเกิดนิมิตบอกให้ทำสิ่งต่าง ๆ ควรทำอย่างไร ?
ตอบ : ทำให้ตัวเองมีความสามารถที่แท้จริงก่อน พอเราทำทุกอย่างได้แล้ว หลังจากนั้นเราจะรู้เองว่าควรจะทำอะไร ควรจะช่วยใคร ตอนนี้อย่าเพิ่งไปฟุ้งซ่านกับเรื่องอื่น จะทำให้เสียผลการปฏิบัติ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2014 เมื่อ 20:24
|