พระอาจารย์เล่าว่า "ที่ไปเนปาลนั่น วัดที่ลุมพินีอาตมาไม่ได้ไปถึง ที่ลุมพินีน่าจะเป็นวัดมหานิกาย เพราะว่าเจ้าคุณวีรยุทธเป็นพระมหานิกาย แต่ว่าที่ภักตรปุระ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ท่านไปเริ่มไว้ เลยเป็นวัดธรรมยุต พระที่นั่นมาบวชมาเรียนที่วัดบวรฯ จนพูดไทยได้ชัดเลย ท่านชื่อวิปัสสี ตระกูลศากยะ เป็นตระกูลเดียวกับท่านเจ้าคุณอนิลมาน ท่านทำวัดให้เจริญดี วัดมีเนื้อที่แค่ครึ่งไร่กว่า ๆ ท่านจะซื้อเพิ่มอีกครึ่งไร่ ต้องใช้เงินตั้ง ๔ ล้านบาทไทย เลยแจ้งท่านไปว่าจะเอากฐินปลดหนี้ไปทอดให้ท่านซื้อที่ คราวนี้ท่านยังไม่ได้ตอบเมล์มา เลยไม่รู้ว่าท่านจะตอบหรือไม่ตอบ หรือป่านนี้ยังไม่ได้ดูเมล์ ท่านส่งพระเณรมาเรียนในเมืองไทย ๑๒๖ รูป ที่วัดยังมีพระอีก ๕ สามเณรอีก ๓๖ สามเณรกำลังหัดเรียนภาษาอยู่
คราวนี้กฐินที่นั่นน่ากลัว เพราะช่วงกฐินอากาศที่นั่นหนาวติดลบ ช่วงพฤศจิกายน ธันวาคม จะติดลบเลย ความจริงอาตมาไม่รู้จักวัดท่านหรอก เดินเปะปะ ๆ ไปเที่ยวดูบ้านดูเมือง แล้วมีสามเณร ๒ รูป กำลังย่อง ๆ กลับจากตลาด ก็เลยแปลกใจ มองไปข้างหน้าเห็นพระสีวลีแบบไทยชัดเลย คิดว่าต้องเป็นวัดไทยแน่ จึงตามไปดู
ปรากฏว่าเณรไปแล้วเข้าวัดไม่ได้ ต้องปีน เณรหนีเที่ยว เลยไปบอกท่านวิปัสสีเจ้าอาวาสว่า ผมตามเณรมา ท่านหัวเราะ บอกว่าจับได้แล้วว่าใครหนีเที่ยว ท่านบอกว่าวันนี้เพิ่งแจกเงินเณร พอมีเงินเลยเข้าตลาด คือที่โน่นรับเงินมาแล้วจะรวมเป็นกองกลาง ไม่เอาเป็นส่วนตัว แล้วจะแจกในวาระที่สมควร ปรากฏว่าวันนั้นเงินเดือนออก เณรหนีเที่ยว ถ้าเณรไม่หนีเที่ยวก็ไม่เจอกันหรอก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2014 เมื่อ 08:58
|