พระอาจารย์กล่าวว่า "ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่มหายานเขารุ่งเรืองแล้ว ตั้งแต่สมัยพระนาคารชุนมา พอรุ่งเรืองขึ้นมาโดยเฉพาะท่านมีความสามารถมากประเภทแสดงอภิญญา ขึ้นฟ้าลงดินกันเป็นปกติ คนก็เลื่อมใสกันมาก พอมีการตั้งมหาวิทยาลัยนาลันทาขึ้นมาเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็มีคนนับถือไปศึกษากันมาก โดยเฉพาะรุ่นถัด ๆ มาไม่ว่าจะเป็นท่านวสุพันธุ ท่านอสังคะ ท่านอัศวโฆส แต่ละคนสุดยอดปฏิภาณทั้งนั้น ทำให้ทางด้านมหายานรุ่งเรืองเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะพระเจ้ากนิษกมหาราชให้การสนับสนุนด้วย พระเจ้ากนิษกะที่เป็นผู้ที่สนับสนุนการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๕ แล้วมีการจารึกเป็นภาษาสันสกฤตลงในแผ่นทอง ๑๐๐,๐๐๐ โศลก ต้องใช้ทองตั้งเท่าไร ? หลังจากนั้นก็ส่งธรรมทูตออกไปเผยแผ่ยังดินแดนต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นพระถังซัมจั๋ง หรือหลวงจีนฟาเหียน ก็ไปศึกษาที่นาลันทา ท่านเหล่านี้เสียสละมาก จากที่ไม่รู้อะไรเลย ต้องไปเรียนจนรู้ภาษาของเขา พอรู้ภาษาของเขาแล้ว ต้องไปศึกษาพระไตรปิฎกจนแปลเป็นภาษาจีนได้ ไปกันที ๒๐ ปี ๓๐ ปี สมมติว่าตอนไป ๓๐ กลับก็ ๕๐ แล้วเดินทางไกลขนาดนั้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่ามีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาอย่างมหาศาล"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-06-2014 เมื่อ 04:26
|