ถ้าเราสามารถรักษากำลังใจของเราให้ทรงตัวได้ นอกจากอันตรายต่าง ๆ เหล่านี้จะทำอันตรายเราไม่ได้แล้ว กำลังสมาธิยังเป็นเครื่องช่วยเสริมปัญญาให้เกิดขึ้น ทำให้เราเห็นทุกข์เห็นโทษว่า การเกิดมาในโลกนี้ มีอันตรายต่าง ๆ มาเบียดเบียนรอบข้าง ไม่ว่าจะความหิว ความกระหาย ความร้อน ความหนาว ความเจ็บไข้ได้ป่วย แล้วก็ยังมีคน มีสัตว์ มีผีเจ้าเข้าสิงต่าง ๆ มาคอยเบียดเบียนอยู่ มีอันตรายจากไสยศาสตร์มาคอยเบียดเบียนอยู่ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่มีความทุกข์เช่นนี้ เรายังต้องการอีกหรือไม่ ?
ถ้าเราเห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้หาความดีไม่ได้ มีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับไต่อยู่ที่ขอบเหว ไม่ทราบว่าจะโดนทำอันตรายด้วยสิ่งต่าง ๆ เมื่อไร ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากได้ ไม่ต้องการในร่างกายนี้ หรือไม่ก็พิจารณาเห็นว่า การเกิดมามีร่างกายที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้ ต้องคอยหวาดกลัวอันตรายต่าง ๆ เช่นนี้ หรือว่าการเกิดมาในโลก เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อน สัตว์ทั้งหลายมีการเบียดเบียนกันเป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่เป็นทุกข์เช่นนี้ การเกิดมาในโลกที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไร เราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน
เอาใจสุดท้ายของเราเกาะที่พระนิพพาน หรือนึกถึงภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นคือพระพุทธนิมิต แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เอากำลังใจเกาะเกี่ยวอยู่ที่ภาพพระ แล้วใช้คำภาวนาหรือพิจารณาของเราไปตามอัธยาศัย ตั้งใจว่าวันนี้ถ้าหมดอายุขัย ตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ดี เรามาขออยู่กับองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น แล้วตั้งใจกำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเราไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2014 เมื่อ 11:25
|