ดูแบบคำตอบเดียว
  #39  
เก่า 19-03-2014, 19:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,233 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมมีความเห็นว่าพระควรจะยุ่งกับการเมืองไหม ? สมัยก่อนมีพระยุ่งกับการเมืองคือ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอนทำยุทธหัตถี กองทัพตามไม่ทัน สมเด็จพระนเรศวรชนะพระมหาอุปราชแล้ว จะประหารแม่ทัพนายกองที่ตามไม่ทันทั้งหมด สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ก็เลยต้องเข้าวัง กราบทูลสมเด็จพระนเรศวร ขอชีวิตแม่ทัพนายกองไว้

พระนเรศวรท่านให้เหตุผลว่า "ในเมื่อพวกนี้กลัวข้าศึกมากกว่าโยม ก็สมควรที่จะโดนประหารแล้ว" สมเด็จพระพนรัตน์ท่านบอกว่า ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างนั้น อาจเป็น
เพราะว่าอำนาจของเทพยดาบันดาล อยากจะแสดงให้เห็นซึ่งกฤษฎาอภินิหารของพระองค์ ก็เลยบันดาลให้กองทัพตามไม่ทัน เหมือนอย่างกับสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผจญพญามาร บรรดาพรหมเทวดานับแสนนับล้านมีเยอะแยะ ถ้าหากว่ามาช่วยก็สามารถจะสู้กับกองทัพมารได้อยู่แล้ว แต่ว่าด้วยพุทธบารมีก็เลยทำให้บรรดาพรหมเทวดาเกิดความหวาดเกรงแล้วก็หลีกหนีไปทั้งหมด ให้พระองค์ท่านผจญอยู่เพียงผู้เดียว เมื่อชนะได้จึงเป็นพุทธานุภาพอย่างแท้จริง ไม่ได้ชนะเพราะผู้อื่นช่วย

ดังนั้น..สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็เช่นเดียวกัน ถ้าชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยกองทัพ ก็จะมิได้ปรากฏกฤษฎาอภินิหารเป็นที่เลื่องลือ แต่นี่กลายเป็นว่าลุยเดี่ยวเข้าไปในกองทัพแล้วชนะได้

พอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชฟัง ก็รู้สึกชอบพระทัยบอกว่า "ตรัสไปแล้ว ถ้าคืนคำ..เดี๋ยวต่อไปคนจะไม่เชื่อถือ ถ้าเว้นชีวิตก็
ให้ไปตีมะริด ทวาย ตะนาวศรี คืนมา" พูดง่าย ๆ คือทำคุณไถ่โทษ ตกลงว่าแม่ทัพนายกองทั้งหมดออกศึกอีกรอบหนึ่ง ไปยึดเอามะริด ทวาย ตะนาวศรี คืนมา

สมเด็จพระพนรัตน์บอกว่า เรื่องของการรบ ไม่ใช่วิสัยของสงฆ์ ที่ท่านมาเพื่อขอชีวิตแม่ทัพนายกองไว้ เมื่อได้ดั่งใจแล้วก็ขอลากลับวัด จะเห็นว่าสมเด็จพระพนรัตน์ท่านมาแบบพอดี ก็คือช่วยชีวิตเสร็จแล้วก็กลับ ไม่ได้อยู่ต่อ เขาประกาศยุบเวที กูก็ไม่ยุบ จะเห็นว่าคนละอย่างกัน ถ้าพระสงฆ์จะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ต้องเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ แล้วต้องมีความพอดีของตัวเองอยู่ ไม่ใช่ว่าไปนำม็อบเสียเอง ถ้าไปทำในลักษณะนั้นก็ต้องรอวันแตกดับไปเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2014 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา