ถ้าสภาพจิตของเรายอมรับจริง ๆ เราก็จะเห็นว่า ธรรมดาของร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี เกิดมาแล้วต้องตาย ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว เพราะไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเวียนว่ายตายเกิด ความตายเป็นเพียงการเปลี่ยนรูปเปลี่ยนขันธ์ไปชั่วขณะ เป็นไปตามบุญตามบาปที่ตัวเองได้ทำมา
ถ้าสร้างบุญกุศลไว้ก็ไปได้ขันธ์ทิพย์ เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม ถ้าไม่นิยมการเกิดก็หลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน แต่ถ้าสร้างบาปเอาไว้ก็ต้องไปเกิดสัตว์นรกบ้าง เป็นเปรตบ้าง เป็นอสุรกายบ้าง เป็นสัตว์เดรัจฉานบ้าง ถ้าเกิดมาเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่มีแต่ความทุกข์ยากอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราเห็นว่าร่างกายของเรานี้จะต้องตายเป็นธรรมดา ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แต่เป็นการเปลี่ยนรูปเปลี่ยนขันธ์ไปตามบุญตามกรรมของตน ความหวาดสะดุ้งในความตายของเราก็จะค่อย ๆ ลดน้อยถอยลง
จนกระทั่งถ้าเห็นความปกติธรรมดาจนถึงที่สุด ก็จะไม่หวั่นไหวต่อความตายที่มาถึง ซึ่งนักปฏิบัติทุกคนจะต้องทำให้ได้ถึงจุดนี้ สามารถกับเผชิญหน้ากับความตายอย่างสง่างาม เหมือนอย่างกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกัน ถึงเวลาเจอหน้ากันก็มีแต่ความปีติ มีแต่ความยินดี เนื่องจากว่าอัตภาพร่างกายนี้ชำรุดทรุดโทรมจนเกินแก้ไข ถ้าเราไม่นิยมเสียแล้วก็ทิ้งไป ก้าวเข้าสู่พระนิพพาน
ถ้าจิตยังมีการข้องแวะจุดใดจุดหนึ่งอาจจะเกิดเป็นพรหม เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า แต่ถ้าสภาพจิตแบกบาปเอาไว้มาก ก็จะต้องลงสู่อบายภูมิ เมื่อเรายอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดาอย่างนี้ สภาพจิตก็จะไม่หวั่นไหวดิ้นรน เห็นความตายเป็นของธรรมดา เมื่อรู้ตัวว่าจะตายก็เร่งรัดการปฏิบัติของตนเอง ทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ทำความเคารพในพระรัตนตรัยคือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้น ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ตั้งใจว่าตายลงไปเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว
ถ้าสามารถรักษากำลังใจอย่างนี้เอาไว้ได้ ถ้าสิ้นอายุขัยตายไปหรือเกิดอุบัติเหตุตายไป เราก็จะก้าวเข้าสู่สุคติภูมิอย่างแน่นอน ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจ กำหนดการภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2014 เมื่อ 12:30
|