๗. อย่าท้อถอยในงานที่ทำอยู่ ทุกอย่างให้ตั้งใจต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อพระนิพพานให้เต็มที่ คือเต็มกำลังใจของเรา งานภายนอกหรืองานทางโลก ซึ่งต่างคนต่างก็มีหน้าที่ของตน ก็พยายามทำให้เต็มความสามารถของแต่ละคน แต่พร้อมที่จะละ - ปล่อย - วางได้ทันทีเมื่อความตายมาถึง และงานภายใน คืองานสมถะ - วิปัสสนาธุระ ก็ทำให้เต็มกำลังใจ งานทั้ง ๒ ประการนี้อย่าให้ขาดตกบกพร่อง จึงจักได้ชื่อว่ากำลังใจเต็ม
คนอื่นจักเป็นอย่างไรอย่าไปสนใจ อย่าไปห้ามกรรมหรือสนใจในกรรมของใคร ให้ดูการกระทำของกาย – วาจา - ใจของตนเอง พึงกำหนดรู้อยู่ในศีล - สมาธิ - ปัญญาตลอดเวลา ใครกระทำผิดศีล - สมาธิ - ปัญญา อย่าไปโกรธเขา ให้พึงมีเมตตาให้มาก ๆ ให้คิดว่าคนเราเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ได้ก็แสนยาก นี่โชคดีมากที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้พบพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ และได้พบพระอริยสงฆ์ หากไม่สามารถรักษาศีล - สมาธิ - ปัญญาไว้ให้ได้ ก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ที่อบายภูมิ ให้รู้สึกสงสารพวกเหล่านี้ด้วยเมตตาจริง ๆ อย่าเอาความรู้สึกสมน้ำหน้าเข้าไปเจือปน ความเกลียดชัง อารมณ์ปฏิฆะก็จักเกิดขึ้นแทนเมตตา
ให้พิจารณาเรื่องเมตตาและพรหมวิหาร ๔ ให้มาก ๆ แล้วจิตจักมีอารมณ์เยือกเย็นขึ้นได้ การปฏิบัติก็จักเข้าถึงมรรคผลได้เร็ว แต่พึงระมัดระวัง คำว่าการมีพรหมวิหาร ๔ ให้แก่ตัวเองนั้น.. ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ผู้ใดเข้าใจอย่างนั้นจักแปลคำสอนของตถาคตผิด ให้พิจารณาให้ลึกซึ้งแล้วจักรู้ชัดว่า พรหมวิหาร ๔ เกิดขึ้นกับจิตตนเองเป็นอย่างไร ? ความเห็นแก่ตัว หรือมัจฉริยะ ความตระหนี่ขี้เหนียวเป็นอย่างไร ? ให้สังเกตว่า พรหมวิหาร ๔ เกิดขึ้นกับจิตแล้วจักเยือกเย็นมาก แต่ความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นกับจิตเมื่อไหร่ก็จักเร่าร้อนเมื่อนั้น พิจารณาแยกออกมาให้ได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-02-2014 เมื่อ 15:17
|