๑๘. ทำจิตให้เหมือนดูหนังดูละครผ่านไปแล้วก็ผ่านเลย หรือทำจิตให้เหมือนกระจกเงา อะไรผ่านเข้ามาก็เห็นหมด แต่เมื่อเลยไปแล้วกระจกเงาก็ไม่ได้ยึดภาพเหล่านั้นไว้เลย จำไว้.. จงเป็นเพียงผู้ดู ที่แล้ว ๆ มาพวกเจ้าลงไปแสดงร่วมกับเขาด้วย จึงเป็นการขาดทุนอย่างยิ่ง
อยู่ในโลกไม่มีใครพ้นจากโลกธรรม ๘ ไปได้ พระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ทุกองค์ก็ดี ยังถูกนินทาใส่ร้ายป้ายสี แล้วพวกเจ้าเป็นใคร ทำไมจักไม่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ให้มองเห็นว่ามันเป็นธรรมดาของชาวโลก จิตก็จักปล่อยวางโลกธรรมนี้ลงได้ และให้รู้กฎของกรรม ให้ยอมรับนับถือกฎของกรรม อย่าไปตำหนิใครว่าเลวหรือชั่ว นั่นเป็นเพราะอกุศลกรรมเข้าครอบงำ จิตเขาเห็นดีอย่างนั้น จึงทำไปตามอำนาจของกรรมที่เป็นอกุศล
กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น หากพวกเจ้ามิได้เคยสร้างกรรมเหล่านี้ไว้ก่อนในอดีต วิบากกรรมนั้นจักเกิดกับพวกเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้ ขอให้อดทน ไม่ช้ากฎของกรรมก็ย่อมจักคลายตัวไปเอง โลกเสื่อมมากเท่าไหร่ ทุกข์ก็มากขึ้นเท่านั้น แต่อย่าพึงห่วงวิตกกังวลให้มาก รักษาอารมณ์จิตให้เป็นสุขอยู่ในปัจจุบันดีกว่า เตรียมพร้อมด้วยความไม่ประมาท ซ้อมตายเอาไว้เสมอ รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน พลาดท่าขึ้นมาจักได้ทิ้งร่างกายไปพระนิพพานได้ทันท่วงที
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2013 เมื่อ 15:28
|