ถาม : พระโสดาบันในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ยังไม่สามารถตัดกิเลสได้ จนมาเจอพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ทำไมจึงไม่มีกล่าวในพระสูตรว่า พระโสดาบันได้มาอุบัติในชาตินี้แล้วก็ทำมรรคผลให้เกิด ?
ตอบ : ไม่ได้ให้รายละเอียดไว้ แต่ก็พอที่จะอนุมานได้ อย่างคู่ของปิปผลิมาณพกับนางภัททกาปิลานี ที่ตอนหลังก็คือพระมหากัสปะกับภัททกาปิลานีภิกษุณี คู่นี้แต่งงานกัน นอนหันหลังให้กันอยู่ตั้งหลายปี คาดว่าถ้าไม่ได้ถึงขนาดพระสกทาคามีหรือโสดาบันละเอียด ย่อมไม่มีทางทำได้
ถาม : หมายความว่าก่อนมาเกิดท่านเป็นพรหมมาก่อน ?
ตอบ : อาจจะใช่ อย่าลืมว่าจะเป็นพรหมหรืออะไรก็ตามเถอะ ลงมาโลกมนุษย์ก็กิเลสท่วมหัวเหมือนเดิม ยกเว้นอย่างเดียวว่าท่านต้องเป็นพระอริยเจ้าระดับนั้น เพราะว่าถ้าเป็นพระโสดาบันเอกพีชี หรือพระสกทาคามี รัก โลภ โกรธ หลง บางเต็มทีแล้ว ท่านถึงสามารถนอนหันหลังให้กันอยู่ตั้งหลายปี ของเราสมัยนี้ขนาดอยู่ปราสาท ๗ ชั้น ยังตะกายขึ้นไปหากันเลย
เพราะฉะนั้น..ในส่วนที่กล่าวถึงตรง ๆ นั้นไม่มี แต่ในส่วนที่เราพออนุมานได้ว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีเหมือนกัน เพียงแต่ท่านไม่ได้บอกไว้ตรง ๆ เท่านั้นเอง
ถาม : เป็นเพราะว่าผู้ที่มาจากชั้นพรหมเป็นผู้ที่ได้ฌานมาก่อน แล้วอุุบัติมาในมนุษย์โลก ด้วยวิสัยเดิมที่ชอบใจในฌานหรือข่มกิเลสได้ ก็ทำให้ไม่ชอบในราคะ ?
ตอบ : ย้อนกลับไปที่ฤๅษีตกสวรรค์ กรณีนั้นเข้าอภิญญาด้วยซ้ำไป เหาะผ่านเห็นสาวอาบน้ำยังร่วงเลย แล้วนั่นท่านนอนอยู่ห้องเดียวกัน ถ้าไม่มั่นคงขนาดกำลังพระอริยเจ้าเอาไม่อยู่หรอก
ถาม : แต่ท่านไม่ได้กล่าวรายละเอียดไว้ ?
ถาม : ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้ แต่นี่เป็นการอนุมานเอาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 20-12-2021 เมื่อ 23:18
|