ดูแบบคำตอบเดียว
  #74  
เก่า 03-12-2013, 10:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,238 ครั้ง ใน 35,990 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่ามีวิปัสสนานำหน้าและสมถะตามหลัง แปลว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : พิจารณาไปเรื่อย ๆ สภาพจิตจะน้อมดิ่งเข้าไป จนกระทั่งกลายเป็นสมาธิไปเอง ขณะที่พิจารณาสมาธิจะค่อย ๆ เกิดขึ้น เพราะถ้าสมาธิไม่เกิด กำลังจะไม่พอตัดกิเลส ก็เลยกลายเป็นการเอาวิปัสสนานำหน้า แล้วในที่สุดสมถะก็จะตามมา แต่ถ้าลักษณะอย่างนี้ต้องปัญญาเยอะจริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วกิเลสตีหงายท้องไปเสียก่อน

แต่ถ้าจะใช้สมถะในการหยุดยั้งกิเลสไว้ก่อน แล้วค่อยใช้กำลังพิจารณาทีหลังจะปลอดภัยกว่า แต่ก็จะมีโอกาสเผลอสติ ติดสุขอยู่ในสมาธินั้นจนลืมพิจารณา ต่างคนต่างก็มีข้อบกพร่องของตัวเอง จึงควรที่จะทำคู่กันไป สลับกันเดิน พิจารณาไปจนกระทั่งสมาธิเกิด แล้วก็หันมาภาวนา ภาวนาเสร็จไปต่อไม่ได้ ก็คลายออกมาพิจารณา จะผลัดกันเดินอย่างนี้จึงจะก้าวหน้า


ถาม : ไปพร้อมกันไม่ได้
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ ลองเดิน ๒ ขาพร้อมกันดูสิ ก็กลายเป็นนกกระจอกเท่านั้น คือกระโดดไปอย่างเดียว นกกระจอกก้าวเดินไม่เป็น

ถาม : พอทำสมาธิถึงระดับหนึ่งแล้วผ่อนลงมาคิด ?
ตอบ : ความเคยชินทำให้เราคลายลงมาคิดเอง บางทีเราก็ไม่รู้ แต่เป็นการคิดโดยที่มีสมาธิระดับสูงคุมอยู่ สมาธิระดับสูงที่คุมอยู่ เป็นการประกันความปลอดภัยให้แก่เรา ว่าจะไม่พลาดหลุดออกไป

ถาม : ถ้าอยู่ในสมถะเข้าฌานเท่าไรก็เป็นตามกำลังที่ถอยออกมา ?
ตอบ : ตอนที่เราถอยมานั่นกำลังของฌานยังคุมอยู่

ถาม : การเข้ามรรคนี่อยู่ในอัปปนาสมาธิ ?
ตอบ : อย่าลืมว่าสมาธิที่เราเข้าต้องเป็นอัปปนาสมาธิ เพราะถ้ากำลังไม่ถึงอัปปนาสมาธิขึ้นไปก็ไม่พอตัดกิเลส ในเมื่อพอตัดกิเลสก็แสดงว่าอยู่ในอัปปนาสมาธิแล้ว ก็คืออยู่ในส่วนของมรรคที่เราจะก้าวไปหาผล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-12-2013 เมื่อ 17:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา