ดูแบบคำตอบเดียว
  #70  
เก่า 02-12-2013, 18:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,385
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,235 ครั้ง ใน 35,987 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างกายคตาสติ ที่บอกว่าเราดูเส้นผมขณะปัจจุบัน ?
ตอบ : ดูทั้งในอดีต ก็คือระลึกรู้อยู่ว่า ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ดูอยู่ในปัจจุบัน คือตอนนี้เป็นอย่างไร ดูไปในอนาคต สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันท่านบอกว่า ให้พิจารณาในส่วนของปฏิกูลสัญญาร่วมกันไปด้วย ก็คืออย่างเช่นว่า ปฏิกูลโดยสภาพ ต่อให้เราสระผมใหม่ ๆ สะอาดเอี่ยมเลย ถ้าเส้นผมตกไปในอาหาร เราก็ไม่กินเพราะเรารังเกียจ นี่คือปฏิกูลโดยสภาพ

ปฏิกูลโดยการสัมผัส คืออยู่กับร่างกายของเรา โดนเหงื่อไคลจับต้องเข้า ก็เกิดกลิ่นสาบกลิ่นสางขึ้นมา ท่านให้เอาปฏิกูลสัญญาประกอบเข้าไปด้วย


ถาม : ไม่ใช่อารมณ์นึกหรือครับ ?
ตอบ : ตอนแรกเหมือนกับนึก คือว่าจำว่าเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าพิจารณาไปจนกระทั่งสภาพจิตยอมรับ จะเป็นปัญญา มองเห็นจริง ๆ ว่าเป็นอย่างนั้น

ถาม : อย่างอดีตเราเจอสภาพศพอย่างนั้น แต่ปัจจุบันซากศพที่เน่าเปื่อยแบบนั้นเราไม่ได้เจอ ?
ตอบ : เจออันไหนก็ทำเหมือนกัน อย่างเจอเขียงหมู เป็นต้น

ถาม : แล้วน้อมมาใส่ตัว ?
ตอบ : เหมือนกัน เรากับหมูโดนหั่นเป็นชิ้น ๆ ก็มีลักษณะเหมือนกัน มีเลือดมีเนื้อ มีอวัยวะภายในเหมือนกัน

ถาม : ถ้าเราไปเจอแล้วน้อมเข้ามาสู่ภาพนั้นก็เป็นอดีต ?
ตอบ : เป็น..แต่ในขณะเดียวกันอารมณ์ของเราดึงมาอยู่ในปัจจุบัน ก็คือเปรียบเทียบกับตัวของเราเอง ท่านใช้คำว่าโอปนยิโก ต้องน้อมนำเข้ามาในตัวเราเสมอ ว่าสภาพร่างกายแบบนั้น ตัวเราก็เป็นแบบนั้น ในเมื่อน้อมนำมาเข้าแล้วก็กระจายออกว่า ตัวเราก็เป็นแบบนี้ คนอื่นก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อสภาพความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ แล้วตัวเราจะยังมีความปรารถนาในสภาพร่างกาย ที่เต็มไปด้วยความสกปรกเหมือนอย่างกับซากศพเหล่านี้ไปทำไม แล้วในเมื่อร่างกายของเรา เรายังไม่ต้องการ แล้วของคนอื่นเราจะต้องการไหม ? กระจายออกแล้วรวมเข้า รวมเข้าแล้วกระจายออก ดังนั้น..แม้ว่าจะเป็นส่วนของอดีต แต่ถ้าเราดึงขึ้นมาพิจารณา ก็กลายเป็นปัจจุบัน

ถาม : ร่างกายคนอื่นก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ก็เป็นอนุมานไม่ได้เห็นจริง ?
ตอบ : ถ้าปัญญาถึงจะเห็นจริง ๆ ก็คือในเมื่อตัวเราเป็นอย่างนั้น คนอื่นก็เป็นอย่างนั้น สภาพทุกอย่างเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรต่างกัน ลักษณะเหมือนกับเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เหมือนกัน ประกอบไปด้วยอาการ ๓๒ เหมือนกัน ถ้าลักษณะทางโลกทั่ว ๆ ไปจะเป็นการอนุมาน แต่ถ้าสภาพจิตของเรายอมรับ มีปัญญาเห็นจริง จะรู้แจ้งแทงตลอดไปหมดเลย จะไม่โดนสิ่งที่มาบดบัง เคลือบแคลง หรือว่าสงสัยอยู่ เพราะว่าในส่วนของดวงปัญญา สว่างเหมือนกับแสงที่สว่างมาก เมื่อฉายไปในที่มืด ย่อมเห็นภาพทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-12-2013 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา