พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๓๐ ตื่นเช้ามาโทรศัพท์เจ๊ง ก็เลยต้องไปซื้อเครื่องใหม่ ราคาแพงสุด ๆ ยี่ห้อโนเกียราคา ๗๐๐ บาท..! เครื่องที่แล้วราคา ๗๙๐ บาท ใช้ได้ตั้ง ๔ ปี ๗๙๐ บาท ปีละไม่ถึง ๒๐๐ บาท เครื่องใหม่ถ้าได้ ๔ ปี จะกำไรมากกว่า ตกปีละ ๑๐๐ กว่าบาท ความจริงมีของซัมซุง ๕๙๐ บาท แต่อาตมาไม่คุ้นกับระบบของซัมซุง จึงเอาโนเกียก็แล้วกัน จะว่าไปเพราะยังไม่รวยเท่าเณรคำ ก็เลยใช้เครื่องละ ๗๐๐ บาทไปก่อน ถ้ารวยเท่าเณรคำเมื่อไรแล้วค่อยไปใช้แบบทองคำขาวฝังเพชร..!
อาตมากับญาติโยมรอบ ๆ ข้าง ๓ - ๔ คน แข่งกันว่าใครจะหาของได้ถูกกว่า โยมเขาซื้อรองเท้าได้คู่ละ ๒๕ บาท คุยไปตั้งครึ่งปี อาตมาจะไปซื้อบ้าง ดันเท้าใหญ่..ใส่ไม่ได้ ตอนนี้เวลาไปไหนถ้าใส่รองเท้าใหม่หน่อย เวลาลงวัดอื่นจะทิ้งรองเท้าไว้บนรถ เพราะถ้าเอาลงไปอาจจะหาย ถ้ารองเท้าเก่า ๆ ก็ใส่ติดไปเถอะ ไม่มีใครแลหรอก ไปใส่รองเท้าราคาแพง ๆ เวลาหายแล้วเสียดาย โยมเขาเคยซื้อให้ใส่หลายทีแล้ว แต่เดินไม่ถนัด เพราะพื้นหนา พอพื้นหนา ถ้าแข็งด้วยก็ดี แต่คราวนี้หนาแล้วยุบด้วย เวลาเดินแล้วรู้สึกหลอน ๆ เท้าอย่างไรก็ไม่รู้ เลยตกลงใส่ได้แต่รองเท้าพื้นบาง ๆ สรุปว่าตราช้างดาวดีที่สุด ถึงเวลาก็เอามีดบากเป็นเครื่องหมายไว้ จะได้จำได้ว่าเป็นของตัวเอง
ตอนไปยุโรปจำเป็นต้องใส่ถุงเท้า เพราะอากาศบ้านเขาหนาวมาก ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นรองเท้าแบบมีที่รัดส้น ก็จะใช้สะดวกขึ้น ปรากฏว่าตรงที่รัดส้นนั่นแหละกัดดีนัก เพราะเดินกันเช้ายันค่ำ เดินมาก ๆ รองเท้าก็กัด บ้านเขาเดินเท่าไรก็ไม่เหนื่อยเพราะอากาศเย็น จำเป็นต้องเดินเร็ว ๆ ด้วย จะได้อุ่น เดินไปเดินมารองเท้ากัดเสียนี่
สมัยอยู่กับหลวงปู่มหาอำพันที่วัดเทพศิรินทราวาส หลวงปู่มักจะใช้รองเท้า SCS หรือตราอูฐ หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศใส่บาจา หลวงพ่อวัดท่าซุงชอบตราอูฐ แต่ต้องเป็นแบบมีห่วงคล้องหัวแม่เท้าด้วย เวลาใส่แล้วจะได้ไม่หลุด แต่ละท่านใช้ไม่เหมือนกัน พอถึงเวลาอาตมาจะแอบขโมยรองเท้า ก็ต้องหาที่หน้าตาเหมือน ๆ กันมา เอามาวางไว้แทน ตอนแรกไม่เข้าใจ เอามาเปลี่ยนให้หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ ท่านก็ใส่ไม่ถนัด ท่านถนัดยี่ห้อบาจาแบบสวมเลย ด้วยความที่อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงมาจนชิน ก็เลยซื้อแบบมีห่วงคล้องหัวแม่เท้าให้ ท่านดันอยู่ตั้งนานกว่าจะใส่ได้
มาระยะหลังโดนหมาคาบรองเท้าบ่อย สงสัยว่าจะกรรมสนอง เพราะสมัยก่อนไปขโมยรองเท้าครูบาอาจารย์อยู่เรื่อย ถึงเวลาก็เปลี่ยนคู่ บางทีพระลูกศิษย์ที่มาทีหลังไม่รู้จัก เขาก็สงสัย เข้าไปในห้องพระเห็นมีตู้อยู่ แล้วชั้นล่างก็มีพานใส่รองเท้าอยู่ ๒ - ๓ คู่ คู่หนึ่งก็พานหนึ่ง ไม่ได้บอกท่านหรอกว่า เป็นรองเท้าของหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ ขืนบอกเดี๋ยวหาย..!
สมัยเด็ก ๆ อ่านเรื่องรามเกียรติ์ พระรามต้องออกป่า ๑๔ ปี เพราะว่าท้าวทศรถไปเสียท่ามเหสีรอง รับปากว่าจะยกสมบัติให้พระพรต พระสัตรุด คราวนี้ยกให้แล้วก็ยังเกรงว่าจะมาชิงสมบัติคืน ก็เลยบังคับว่าต้องออกป่าไปบวชเป็นฤๅษีอยู่ ๑๔ ปี แต่ว่านั่นเป็นความคิดของแม่เลี้ยง ตัวพระพรต พระสัตรุดท่านไม่ได้คิดอย่างนั้น ท่านยังรัก ยังเคารพนับถือพระรามเหมือนเดิม ก็เลยขอรองพระบาท ก็คือรองเท้า เอาไว้บนบัลลังก์แทน หมายความว่าพระรามไม่ได้นั่งบัลลังก์หรอก เอารองเท้าไปนั่งบัลลังก์แทน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-11-2013 เมื่อ 02:44
|