ดูแบบคำตอบเดียว
  #127  
เก่า 04-11-2013, 17:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมสรุปได้แค่สี่อย่าง ผมว่าคงมีมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมเห็นแค่นี้ ถ้าเรารู้ก็ให้เรากำหนดรู้ทุกข์ ถ้าเรารู้ก็มาดูตัวต่อไปว่า ให้เราวาง พอสุดท้ายคือเห็นทุกข์ ถ้าเราวางก็จะว่าง จะเป็นนิโรธ ก็คือดับ แต่วิธีทำก็คืออยู่กับปัจจุบันก็เป็นมรรค หรืออย่างไรครับ ?
ตอบ : นอกจากคุณอยู่ในปัจจุบันแล้ว ยังต้องสร้างกุศลเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะให้ตนเองมีกำลังที่จะหลุดพ้นไปได้ ช่วงที่การสร้างกุศลของเรานี่แหละ คือศีล สมาธิ ปัญญา

ถาม : จะเริ่มจากตัวไหนก่อน หรือเริ่มจากตัวนี้ก่อน ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วในเรื่องของทุกข์ จะต้องเกิดความทุกข์ขึ้นมาเสียก่อน พอทุกข์จนกระทั่งเข็ด ตราบใดที่ไม่เข็ดเราก็จะไม่ดิ้นรนพ้นทุกข์ ในเมื่อเข็ดเราก็จะเริ่มดู “ทำไมกูถึงทุกข์ ?” นี่คือสมุทัย แล้วถ้าความทุกข์นั้นพ้นไปก็คือ นิโรธ ความสบายเกิดขึ้น เราก็ “เอ๊ะ..ทำไมพอพ้นมาแล้วสบาย ?” ก็จะมองหาทางว่า ทำอย่างไรจะเข้าถึงความสบาย ก็จะมาที่มรรค พระพุทธเจ้าท่านเรียงตามนั้นอย่างนี้เลย คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แต่เราเองไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเรียงอย่างนี้ คราวนี้ก็เหลืออยู่แค่ว่าเราเดินตามมรรคนั้นก็จะจบเลย

ถาม : ก็ต้องทวน ศีล สมาธิ ปัญญา ?
ตอบ : มรรคก็คือศีล สมาธิ ปัญญา เพราะมรรค ๘ ย่อลงมาก็เหลือแค่นั้น แต่ถ้าคนมีปัญญามาก ๆ จะกระโดดมาลุยตรงนี้สามข้อนี้ อย่างอื่นกองทิ้งไปเลย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนให้ดูตรงนี้

ถาม : พอมาดูตรงนี้ก็เห็นว่า ที่ทุกข์ในปัจจุบันเพราะปรุงแต่งในสังขาร ?
ตอบ : โดยทั่ว ๆ ไปต้องเริ่มตรงนี้ แต่หลวงพ่อท่านสอนพวกเราเพราะทำมาเยอะ ทุกข์มาเยอะแล้ว หลายต่อหลายชาติ น่าจะเริ่มเข็ดเริ่มจำแล้ว น่าจะฉลาดขึ้น ท่านก็เลยให้ลงตรงนี้

ถาม : ตัวหลังคืออริยสัจ ตัวหน้าคือประโยคสุดท้ายที่หลวงพ่อผมพูดไว้ก่อนเสียว่า "รู้วาง วางอยู่" แต่พอมาจับกลายเป็นตัวนี้ ถ้าวางก็ลงรอยเดียวกันหมด ?
ตอบ : ถ้าท่านไปที่เดียวกันก็ลงรอยเดียวกันหมดนั่นแหละ ถึงได้บอกว่าบางทีท่านพูดคนละเรื่องแต่เป็นเรื่องเดียวกัน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า “ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ยอมรับกฎของกรรม” หลวงปู่บุดดาท่านบอกว่า “กายเดียวจิตเดียวก็นิโรธ หลายกายหลายจิตมันยุ่ง” คนละเรื่องไหมเล่า ? แต่ลงที่เดียวกันนั่นแหละ หลวงปู่มหาอำพันท่านก็บอกว่า “อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่น ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด” เรื่องเดียวกันหมด เพียงแต่ว่าท่านมาอย่างไร ท่านก็บอกทางอย่างนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2013 เมื่อ 17:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา