ถ้ากำลังใจของเรามั่นคง การกระทบกระทั่งกับสิ่งรอบข้างจะทำให้เราอดทนได้ ไม่ต้องไปหาจิตแพทย์ ฝรั่งเขาไปหาจิตแพทย์กันเป็นปกติ แต่บ้านเราถ้าได้ยินคำว่าจิตแพทย์ก็คิดว่า “ไอ้นี่บ้านี่หว่า” เพราะเรามองจิตแพทย์ในแง่ร้าย
ความจริงพระก็เป็นจิตแพทย์ประเภทหนึ่ง เพราะว่าทำให้เรามีที่พึ่ง คือโดยปกติแล้วบุคคลทั่ว ๆ ไป ถ้ายังไม่ใช่พระอริยเจ้าที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด ก็มักจะต้องอาศัยเกาะสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นที่พึ่ง ถ้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งของตัวเองได้ ก็จะเกิดความรู้สึกว้าเหว่ แล้วก็อาจจะต้องไปพึ่งพายาเสพติดบ้าง เที่ยวหัวหกก้นขวิดบ้าง ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เวลาเราไปกินเหล้าเมายา เที่ยวกลางคืนอะไรพวกนี้ เราจะรู้สึกว่ามีความสุข..ใช่ มีความสุขขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะว่าเกิดจากปัจจัยกระตุ้นภายนอก แสง สี เสียง ข้าวปลาอาหาร สุรา เข้ามากระตุ้น กำลังใจเกิดปีตินิดหนึ่งก็รู้สึกว่ามีความสุข พอพ้นจากที่นั่นไปก็หายเงียบ แล้วอยากมีความสุขอีก ก็ต้องไปอีก ก็เลยกลายเป็นคนที่ติดเที่ยวกลางคืนโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
แต่ถ้าเรามาปฏิบัติธรรมอย่างนี้ เป็นการสร้างปีติขึ้นภายในของเราเอง แค่เราก้าวขึ้นถึงระดับปีติที่ยังไม่ได้ฌานเลย ก็รู้สึกไม่อิ่ม ไม่เบื่อ ไม่หน่ายในการปฏิบัติ แล้วเป็นปีติที่ยั่งยืน เพราะเราสร้างเองได้ เมื่อเป็นอย่างนั้นก็จะทำให้กำลังใจของเราเริ่มมั่นคง มีที่ยึดที่เกาะที่เหมาะสม ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปหาจิตแพทย์เพราะขาดที่พึ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:20
|