พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่เกาะพระฤๅษี ทางเหมืองสองท่อลงทุนปักเสาไฟฟ้าเข้าไปเอง เขาลงทุนปักเสาเดินสายไฟลงหม้อแปลงเอง หมดไปหลายสิบล้านบาท การไฟฟ้ามีหน้าที่ขายไฟให้อย่างเดียว ฉะนั้น..ไฟห้ามดับเด็ดขาด ถ้าไฟที่นั่นดับ การไฟฟ้าจะโดนปรับเป็นนาที เขาทำสัญญากันไว้
สมัยอาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษีสบายใจมาก ขนาดต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟขาด ๓ เส้น กระชากเสาหักล้มไป ๕ ต้น ใช้เวลาครึ่งค่อนวันก็เปลี่ยนเสร็จแล้ว ถ้าเป็นที่อื่นไม่มีทางเสร็จ เป็นวัน ๆ ก็ไม่เสร็จ แต่ที่นั่นต้องเสร็จ ถ้าไม่เสร็จโดนปรับเป็นนาที มีสรรพกำลังเท่าไร ต้องระดมกันมาหมดเลย งานที่ยากเย็นแสนเข็ญ ทำที่อื่นอาจใช้เวลา ๓ วันเสร็จ ที่นั่นครึ่งวันก็เสร็จแล้ว
แต่มีเรื่องแปลกอยู่อย่างคือสภาพการรู้ของจิต อาตมานอนหลับอยู่ ไฟฟ้าช็อต..หม้อแปลงระเบิดบึ้ม..! ทั้ง ๆ ที่หลับอยู่ก็รู้ว่าช็อตตรงไหน ใกล้ไกลเท่าไร เดินไปดูได้เลย ตรงตามที่รู้เลย พอหม้อแปลงระเบิด ไฟดับหมดทั้งเกาะ อาตมาก็คว้าไฟฉายไปดูว่าจริงหรือเปล่า อีก ๒๐ กว่านาทีรถวิ่งมาถึงแล้ว แก้ตรงนั้นแหละ หลับอยู่เฉย ๆ ก็เห็นภาพชัด ๆ เลยว่าช็อตตรงไหน อย่างที่โยมเมื่อเช้าถามว่า เอาเหตุปัจจัยอะไรมารู้ เพราะตัวเองไม่ได้ตั้งใจอยากรู้สักหน่อย ?
อาตมาบอกว่าเกิดจากคำอธิษฐานกรรมฐานของพวกเราที่ว่า "ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น โดยไม่ต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด" ก็ตัวเองไปอธิษฐานเอาไว้ทุกครั้งที่สมาทานพระกรรมฐาน ถึงเวลาสภาพจิตจึงทำงานเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-12-2016 เมื่อ 16:04
|