พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วถ้าตรงกับวันอาสาฬหบูชา มาฆบูชา วิสาขบูชา ออกพรรษา เขาทำบุญกัน พระยายมท่านจะปล่อยผีมาให้โมทนาบุญ ได้บุญแล้วจะได้ไปให้พ้น ไม่ต้องเสียเวลาให้ท่านตัดสิน เป็นวิธีลดงานประเภทหนึ่ง มีปีละ ๓ ครั้ง ครั้งละ ๓ วันเท่านั้น
พวกผีก็ตระเวนหา ญาติของตัวเองอยู่ที่ไหน ถ้าวัดไหนประเภท “เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี” พวกเขาจะล้อมวัดเลย ถ้าวัดไหนให้ “อิทังเม ญาตินัง โหนตุ” ก็ยืนน้ำตาเล็ดไป เพราะถ้าไม่ใช่ญาติก็ไม่ได้ อิทังเม ญาตินัง โหตุ ขอผลทานนี้จงสำเร็จแก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย สุขิตา โหตุ ญาตโย ขอความสุขพึงถึงแก่ญาติของข้าพเจ้าทั้งหลาย
บางคนก็ใช้ ญาตัง เย ปัตติทานัม เม อนุโมทันตุ เต สะยัง ทานอันข้าพเจ้ากระทำไว้ดีแล้ว ขอญาติทั้งหลายจงอนุโมทนาด้วยเทอญ คนไม่ใช่ญาติก็อดไป
ฉะนั้น..ใช้ภาษาไทยง่าย ๆ “ผลบุญที่เราทำแล้วตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ รวมทั้งผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ ขออุทิศให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะใช่ญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี เสวยสุขอยู่ก็ดี เสวยทุกข์อยู่ก็ดี ขอให้เธอทั้งหลายจงโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าใด ขอให้เธอทั้งหลายจงได้รับด้วย” แค่นั้นแหละ ภาษาไทยชัดดี มัวแต่ไป "อิมินา ปุญญะกัมเมนะ" ก็เจ๊งพอดี
ให้กำลังใจเราตั้งตรงเลย ถ้าปากพูดเรื่อยเปื่อยพวกกำลังน้อยจะรับไม่ได้ เราต้องตั้งใจโยนให้ถึงด้วย ประเภทเหวี่ยงส่งเดชเป็นโปรยทานก่อนเข้าโบสถ์ อาตมาบอกพวกนาคโปรยทานหลายทีแล้ว อย่าไปโปรย ขว้างใส่หน้าไปเลย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2013 เมื่อ 18:51
|