พระอาจารย์กล่าวว่า "มีแต่คนบอกว่าหลวงพ่อวัดท่ามะขามทำบุญมาดี เลยได้อาจารย์เล็กเป็นลูกศิษย์ ความจริงไม่ใช่หรอก ต้องบอกว่าท่านทำบุญมาดีด้วยตัวท่านเอง เพราะว่าระยะหลังสุขภาพท่านก็ไม่ดี ผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจตั้ง ๓ เส้น อายุท่านก็มากกว่าอดีตเจ้าคณะจังหวัดปีหนึ่ง ใคร ๆ ก็ว่าตายก่อนแน่ ไม่มีทางได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดหรอก ปรากฏว่าหลวงพ่อพระธรรมคุณาภรณ์ไปอินเดีย ล้มตึงมรณภาพ ท่านก็มาเลื่่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัดจนได้ เป็นจนกระทั่งเกษียณ อยู่มาจนกระทั่ง ๘๔ ปี ทั้ง ๆ ที่ผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจไป ๓ เส้นแล้ว
ถึงเวลาเจ้านายอยากให้เลื่อนเป็นพระเทพเมธากรก็สั่งมา ลูกน้องทำประวัติกันแทบตายเพราะไม่ได้เตรียมเอาไว้เลย ไม่นึกว่าเขาจะให้ ท่านก็ได้ของท่านจนได้ แล้วได้แบบอัศจรรย์ คือในหลวงพระราชทาน
ทั้ง ๆ ที่ในหลวงให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไปพระราชทานแทน แต่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ไปรออยู่ในโบสถ์วัดพระแก้ว ที่พระราชทานจริง ๆ ต้องเป็นพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในหลวงท่านมา เจ้าพนักงานขานชื่อ ก็ทรงพระราชทานไปเรื่อยไปถึงท่านรับเป็นรูปสุดท้าย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จมาถึงพอดี ในหลวงก็หยุดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชพระราชทานต่อ ตกลงว่าท่านรับจากพระหัตถ์ในหลวงเป็นรูปสุดท้าย อย่างนี้ไม่ใช่บุญของอาตมาหรอก เป็นบุญของท่านเองแท้ ๆ
ท่านมีนิสัยว่าจะไปไหนต้องสวดมนต์ไหว้พระก่อน ถ้าจะออกกิจนิมนต์กันตี ๔ - ๕ ท่านก็ต้องลุกมาสวดมนต์ตั้งแต่ตี ๓ สวดมนต์ไม่เสร็จไม่ไป หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกกับหลวงพ่อวัดท่ามะขามไว้เลยว่า ไปงานวัดท่าซุงได้ทุกงาน ไม่ต้องรอฎีกา ท่านก็ไปคู่กับหลวงพ่อวัดเขื่อนฯ ต้องบอกว่าความดีที่ท่านทำส่งผลให้ ท่านบอกว่าในชีวิตก็ไม่ได้คิดว่าจะขึ้นมาจนถึงระดับนี้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:53
|