สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราสามารถนำมาเป็นบทเรียนในการปฏิบัติของพวกเราได้ เรื่องของฤทธิ์ เรื่องของอภิญญา อาตมาขอใช้คำว่าเป็นของแถมในการปฏิบัติ ถ้ากำลังใจสงบถึงที่สุดจริง ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต่อให้ไม่ฝึกก็เกิดขึ้นได้ เพราะฤทธิ์ในอภิญญาเป็นเพียงวิกุพนาฤทธิ์เท่านั้น ฤทธิ์ที่เกิดจากการอธิษฐาน ฤทธิ์ที่เกิดจากฌานสมาบัติ ฤทธิ์ที่เกิดจากการสั่งสมคุณความดียังมีอยู่มากมาย ท่านทั้งหลายเหล่านี้ถ้ากำลังใจรวบรัดตัดตรงแล้ว ตั้งใจจะให้เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกปรือ เป็นของแถมที่มากับนักปฏิบัติที่ทำถึงอย่างแท้จริง
ส่วนในเรื่องของการครองคู่นั้น กำลังใจเราต้องแน่วแน่และมั่นคง เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสัญชาตญาณ เพื่อร้อยรัดให้สัตว์ทั้งหลายติดอยู่ในห้วงวัฏสงสาร ถือว่าเป็นบ่วงมารอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่สามารถก้าวล่วงไปได้ เราก็ต้องเกิดมามีความทุกข์เช่นนี้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า ชาติแล้วชาติเล่า หาที่สิ้นสุดไม่ได้ ดังนั้น..ควรจะมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ มีกำลังของสมาธิที่มั่นคง และท้ายที่สุดมีกำลังของปัญญาที่เห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้รังแต่จะเพิ่มทุกข์ในชีวิตให้แก่เราเท่านั้น ถ้าเราสามารถก้าวล่วงไปได้ก็จะเป็นการก้าวพ้นไปอย่างสง่างาม และสุดแสนที่จะคุ้มค่าที่สุด ความสุขที่ได้รับการจากพ้นจากกองทุกข์นั้น เหนือความสุขในโลกียสุขมากมายจนประมาณเท่าไม่ได้
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธและเถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2013 เมื่อ 12:51
|