พระอาจารย์กล่าวว่า "แม้กระทั่งสมเด็จวัดเกศไชโย ที่ความนิยมอยู่ท้าย ๆ ของพระตระกูลสมเด็จ ก็ราคาขึ้นเป็นล้านบาทแล้ว ต้องบอกว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยภาพของหลวงพ่อวัดระฆังท่าน ที่สร้างพระชิ้นฟัก
สมัยก่อนจะแกงก็หั่นฟักเป็นเหลี่ยม ๆ ถ้าสลักบนฟักด้วยก็แบบนางจันทร์เทวี สลักแล้วค่อยแกง "ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ ชิ้นสองต้องขับเที่ยวเซซัง อุ้มลูกไปยังพนาลัย ชิ้นสามเมื่ออยู่กับยายตา ลูกยาออกช่วยขับไก่ ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน ชิ้นห้าบิตุรงค์ทรงศักดิ์ มารับเอาลูกรักไปจากบ้าน ชิ้นหกจองจำทำประจาน จะประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล ทั้งเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรทัย ใครใครไม่ทันจะสงกา ฯลฯ"
ฉะนั้น..พอทำอะไรเป็นรูปสี่เหลี่ยม ๆ เขาเลยเรียกชิ้นฟักมาตลอด มาระยะหลังนี่เขาเลิกเรียกกันแล้ว เรียกสมเด็จองค์นั้นองค์นี้ มีองค์กวนอู องค์ลุงพุฒ องค์พระธาตุ องค์คุณแจ๋ว เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า เป็นความรู้จริงของหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดระฆัง ที่ท่านอัญเชิญบารมีพระได้ วัตถุมงคลจึงกลายเป็นติดลมบน
โดยเฉพาะช่วงที่อหิวาต์ระบาด ปีระกาห่าใหญ่ ท่านไปเข้าฝันคนแถวบางขุนพรหมว่า ให้เอาพระของท่านทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ คราวนี้คนก็แสวงหาพระของท่านกันใหญ่ สมัยนั้นราคาทอง รู้สึกว่าทองบาทหนึ่ง ๔ บาท คนกล้าบูชาพระสมเด็จองค์ละบาท สมัยนั้นขายข้าวได้แค่เกวียนละบาท เขากล้าบูชาพระกันองค์หนึ่ง..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2013 เมื่อ 08:36
|