พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เรื่องของการครองคู่ สมัยก่อนผู้ชายมีหน้าที่ออกล่า หาอาหารมาเลี้ยง ผู้หญิงมีหน้าที่ฟูมฟักรักษาครอบครัว ดูแลลูกดูแลสามี ความรอบคอบและระมัดระวังของผู้หญิงจึงติดมาจนกลายเป็นสัญชาตญาณ ปัจจุบันไม่รู้จะเอาไปใช้ตรงไหน เลยกลายเป็นเอามาระแวงผู้ชายแทน
เราต้องดูตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หน้าที่เขาต่างกัน ผู้ชายออกล่าสัตว์ เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย และออกรบเพื่อรักษาดินแดนของตัวเองไม่ให้คนอื่นมารุกราน ตัวเองจะได้มีอาหารไว้เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียได้ เขาก็ทำหน้าที่ของเขาไป ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ดูแลรักษาลูกหลานตัวเอง เพื่อให้รอดไปสืบเผ่าพันธุ์ต่อ ฉะนั้น..การระมัดระวังของผู้หญิงจะสูงกว่าหลายเท่า
พอยุคสมัยเปลี่ยน อย่างในหนังสือเรื่องหนึ่ง "ความลับของเอสกิโม" กระมัง ? เขาเข้ามาในเมืองครั้งแรก เขาก็ไม่รู้ เห็นผู้หญิงในเมืองมีแต่ผอม ๆ พอพาผู้หญิงมาแนะนำตัว เขาก็ตำหนิผู้ชายเลยว่า "เจ้าเป็นพรานที่ใช้การไม่ได้ เลี้ยงเมียอีท่าไหนถึงผอมอย่างนี้.." เอสกิโมที่เป็นพรานเก่ง ๆ ล่าสัตว์ได้เยอะ จะต้องเลี้ยงเมียให้อ้วนได้ เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงในเมืองชอบหุ่นผอม ๆ
ผู้ชายที่โดนตำหนิทำหน้าไม่ถูกเลย พอเอสกิโมเจอของที่ตัวเองไม่เคยเจอ ก็เห็นเป็นเวทมนต์ไปหมด พอพาไปอาบน้ำฝักบัว เขาก็แตกตื่นกันใหญ่ หมอผีเอสกิโมเรียกฝนตกได้เป็นวงกว้าง ๆ แต่หมอผีฝรั่งเก่งจัง เรียกฝนให้ตกได้เฉพาะที่ด้วย ถึงเวลาไปเจอกระจก ส่องเห็นเงาตัวเอง โอ้..หมอผีฝรั่งเก่งจริง ๆ สามารถเอาบึงน้ำมาตั้งให้ดูได้ ปกติเขาดูแต่เงาในน้ำ ฉะนั้น..ถ้าผู้หญิงผอม ๆ อย่าเพิ่งไปเที่ยวเอสกิโม ต้องกินให้อ้วนก่อนนะ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2013 เมื่อ 19:50
|