ดูแบบคำตอบเดียว
  #65  
เก่า 16-08-2013, 20:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,378
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดอนงคาราม ท่านสำเร็จวิชากระสุนคด สมัยช่วงสงครามโลกบ้านเรายังมีโรงยาฝิ่นอยู่ พวกที่ติดฝิ่นก็ชอบขโมยกล้วยวัดอนงค์ฯ ไปขาย ท่านก็ห้ามแล้วห้ามอีก บอกว่าเดี๋ยวติดหนี้สงฆ์ พวกนั้นก็ไม่รู้ว่าหนี้สงฆ์เป็นอย่างไร อยากยาฝิ่นเสียมากกว่า หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดอนงค์ฯ ก็ต้องใช้คันกระสุน ก็คือธนูนี่แหละ แต่ยิงด้วยลูกดินเหมือนหนังสติ๊ก แรงกว่าหนังสติ๊กสัก ๔-๕ เท่าเห็นจะได้ สามารถยิงกระบอกไม้ไผ่แตกได้เลย..!

ถึงเวลาหลวงพ่อท่านก็บอกเด็กวัด "เฮ้ย..ช่วยดูหน่อย ใครมาขโมยกล้วยให้ตะโกนบอกหลวงตาด้วย" เด็กวัดก็เล่นกันตามลานวัด พอเห็นขี้ยามาตัดกล้วย "หลวงตา..มีคนมาขโมยกล้วย" ท่านก็คว้าคันกระสุนมายิง ไม่ได้เล็งหรอก แต่โดนกลางหลังทุกราย ปรากฏว่าคนทำชั่วก็มีปัญญา สังเกตไป ๓ - ๔ ครั้ง พระยิงทีไรโดนหลังทุกที ก็เลยเอาสังกะสีผูกหลังมา ถึงเวลาเด็กวัดบอก "หลวงตา..คนขโมยกล้วย.." ท่านยิงออกไปโดนสังกะสี เสียงดังผ่าง..! ท่านด่าลั่นเลย "ไอ้ห่_เล่นตาตุ่มแม่_เถอะ" ท่านเหนี่ยวอีกทีโดนตาตุ่ม โป๊ก..! ลงไปกองอยู่ตรงนั้นเอง "หลวงตา..ยอมแล้ว ๆ"

วิชากระสุนคดที่อาตมากับหลวงตาวัชรชัยเรียนมานั้น ๒ สาย ๒ ครู ครูใหญ่ท่านหนึ่งคือ หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดอนงค์ฯ ครูใหญ่อีกท่านหนึ่งท่านคือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อวัดอนงค์ฯ ถ่ายทอดให้หลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงปู่วัดปากคลองมะขามเฒ่าถ่ายทอดให้หลวงพ่อวัดท่าซุง กลายเป็นวิชา ๒ สายมาเจอกัน

ช่วงนั้นซ้อมกันทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกหลวงตาวัชรชัย จ้างเด็กปั้นกระสุน เอาถัง ๒๐ ลิตรมา บอกว่า "ถ้ามึงปั้นเต็มถัง เดี๋ยวกูให้ ๑๐๐ บาท" เด็กก็ปั้นกันใหญ่ สมัยนั้นเงิน ๑๐๐ บาทเยอะนะ แต่พอยิงไปกระสุนหมด ร้อยบาทไม่ไหวแล้ว หลวงตาต้องใช้วิธีเอากระสอบมา ๔ ใบ มาสอยตะเข็บติดกันแล้วกางเป็นฉาก พอยิงไปกระสุนก็ติดกระสอบไม่ไปไหน ร่วงอยู่แถวนั้น ประหยัดเงินไปได้เยอะ

ซ้อมยิงกันทั้งวัน ต้องภาวนาคาถาให้กำลังใจมั่นคงแล้วยิง ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมไม่แม่นสักที มารู้ทีหลังว่าเป็นเพราะตั้งใจเกินไป ที่จับเคล็ดได้คือ ไม่ได้เจตนาเลย ยิงส่งเดชแล้วเป๊งทุกที ยิงเอาเสาแป๊บหน้าวัดที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านใช้โยงลวดสลิงป้ายศูนย์สงเคราะห์คนยากจนในถิ่นทุรกันดาร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2013 เมื่อ 19:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา