พระอาจารย์เล่าว่า "เรื่องบันทึกการเดินทางไปยุโรปเดี๋ยวไว้มีโอกาสจะเขียนให้ ตอนนี้เรื่องไปอินโดฯ ยังไม่จบ ไปเขมรกับไปจีนยังไม่ได้เริ่ม แต่ไปยุโรปอีกแล้ว มีคนเขาถามว่าจำอะไรได้หนักหนาขนาดนั้น อาตมาบอกไปว่า “ถึงเวลาก็เปิดเทปดูย้อนหลังสิวะ” ง่ายจะตายไป
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า การบันทึกประจำวันเท่ากับเป็นอตีตังสญาณอย่างหนึ่ง เพราะเราต้องนึกว่าเราทำอะไรไปบ้าง ฉะนั้น..ตอนที่ท่านสอนให้ฝึกอตีตังสญาณ ท่านให้ย้อนจากนาทีเป็นชั่วโมง จากชั่วโมงเป็นครึ่งวัน จากหนึ่งวันเป็นวันที่แล้ว ๒ วัน วันที่แล้ว ๓ วัน ท่านให้ซ้อมไปเรื่อย สามารถย้อนไปได้จนกระทั่งอยู่ในท้องแม่ แล้วก็ก่อนที่จะเข้าท้องแม่ ย้อนหลังไปได้เรื่อย ๆ
ถ้าสมาธิไม่มั่นคง ถึงเวลาเริ่มเลือนก็ถอยออกมาเข้าสมาธิใหม่ ภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวใหม่ แล้วค่อยย้อนใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ถ้าไม่ทำแล้วจะไม่ชัด ระยะหลัง ๆ จะไม่รู้เรื่องก็เริ่มต้นใหม่ เข้าสมาธิแล้วก็ไปใหม่
แต่ละคนกำลังไม่เท่ากัน บุคคลที่ระลึกได้ไม่จำกัดชาตินี่ในระดับของพระสาวกมีแค่ ๓ - ๔ ท่านเท่านั้น อย่างเช่นพระมหากัสสปะ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระนางพิมพาเถรี นอกนั้นก็มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่เหลือนี่จำกัด คำว่า "ไม่จำกัด" ก็คือรู้ได้ทุกชาติ ตั้งแต่เกิดชาติแรกมาถึงปัจจุบัน ส่วนที่เหลือ ๆ ก็อาจจะได้สักแสนชาติบ้าง กัปหนึ่งบ้าง ๓ กัปบ้าง ๕ กัป ๑๐ กัปบ้าง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-07-2013 เมื่อ 14:39
|