การปฏิบัติธรรมที่ดีจริง ๆ นั้น ต้องระมัดระวังอย่าให้ กาย วาจา ใจ ของตน เป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่น การที่เราพูดในลักษณะนั้น ทำในลักษณะนั้น ทำให้บุคคลที่เป็นพ่อเป็นแม่ไม่เข้าใจในพระพุทธศาสนา ไม่เข้าใจในเรื่องของครูบาอาจารย์ที่สอน ถ้าไม่เข้าใจแล้วโกรธมาก ก็อาจจะมีการด่าว่าหรือตำหนิครูบาอาจารย์ หรืออาจจะจ้วงจาบไปถึงพระรัตนตรัย ทำให้เกิดโทษใหญ่แก่คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ได้
เราอาจจะถือว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างตาย ก็จริงอยู่ แต่ในสมมติทางโลก อย่างน้อยเราก็เป็นลูกของท่าน เราได้ทำหน้าที่ของความเป็นลูกได้เต็มที่แล้วหรือยัง ? ถ้าเราจะคิดว่าเราตัดได้เร็วเท่าไร เราก็สบายเท่านั้นก็ใช่ แต่การที่เราตัดนั้นเป็นการตัดที่คนอื่นเขาไม่เข้าใจ ทำให้กาย วาจา ใจของเราเป็นโทษกับคนอื่น โอกาสที่เขาจะเข้าถึงธรรมก็ไม่มี เพราะเขาปรามาสในพระรัตนตรัยเสียแล้ว
ดังนั้น..ขอให้ลดกำลังใจลงมานิดหนึ่ง ถือเสียว่าเราอยู่กับโลกเพื่อทำข้อสอบ จะได้เห็นอย่างชัดเจน และเชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่า ในโลกนี้เป็นทุกข์เป็นโทษอย่างแท้จริง ถ้าเราตัดละทิ้งไปเลย ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นลูก ที่ต้องกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา ทำไมถึงต้องกตัญญูต่อพ่อต่อแม่ ทั้งที่ต่างคนต่างเกิด ต่างคนต่างตาย ? ก็เพราะว่าพ่อแม่เป็นแดนให้เราเกิดมา ถ้าไม่มีท่านก็ไม่มีโอกาสเกิดมา และได้ปฏิบัติธรรมจนถึงปัจจุบันวันนี้
เพราะฉะนั้น..เราไม่ได้ทำหน้าที่ของลูกอย่างเต็มที่ แล้วเราก็ตัดก็ละไปเลย คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ก็รับไม่ได้ แทนที่ท่านจะมีโอกาสได้มรรคได้ผลบ้าง ถ้าท่านปรามาสพระรัตนตรัย โอกาสที่ท่านจะได้มรรคได้ผลของท่านก็ไม่มี กลายเป็นเราสร้างกรรมใหญ่โดยไม่รู้ตัว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2013 เมื่อ 14:37
|