ถาม : ผมเห็นเพื่อนเขาซักผ้าที่มีรูปพระหรือยันต์รวมกับกางเกงใน ผมก็ว่าเกินไปหรือเปล่า น่าจะแยก ในความรู้สึกผม ถึงแม้เราจะไม่ยึดติดว่าเป็นผ้า แต่ถ้าคนอื่นเขาเห็น อาจจะเลื่อมใสน้อยลง คนที่ไม่เลื่อมใสจะไม่เลื่อมใสยิ่งขึ้น ประโยชน์พระพุทธศาสนาจะเสีย ผมมองแบบนี้ครับ ไม่รู้ว่าคิดมากไปหรือเปล่า ขณะที่เพื่อนมองว่า ก็แค่ผ้าเท่านั้น ?
ตอบ : ถ้ามองแค่ผ้าเท่านั้น ใจเรายังหยาบเกินไป
ถาม : แล้วผมที่เตือนเพื่อน ฟุ้งเกินไปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ยุ่งเรื่องกรรมของคนอื่นมากเกินไป
ถาม : แล้วมีจุดกึ่งกลางไหมครับ ?
ตอบ : แยกผ้าออกมาสิ เคยบอกหลายครั้งแล้วว่า เราอย่าทำตัวเราให้เป็นทุกข์โทษเวรภัยกับคนอื่น แม้ด้วยกายวาจาหรือใจ เมื่อเราทำแล้วยังเป็นโทษแก่คนอื่น ก็แปลว่าสิ่งนั้นยังไม่ดีจริง
ถาม : ถ้าเราคิดว่าไม่ทำตัวให้เป็นทุกข์โทษเวรภัยแก่ใคร ก็แปลว่าเราแบกคนอื่นด้วยสิครับ ?
ตอบ : เราไม่ได้แบกตัวเราเอง แต่เราแบกพระศาสนาอยู่ด้วย เป็นการปฏิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม คำว่าการปฏิบัติธรรมที่สมควรแก่ธรรม คือเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเองแล้ว ในเมื่อตัวของเราเอง ถ้าเราทำได้แล้ว ก็ต้องทำตนเป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่น
ถาม : ถึงแม้เรายังไม่จบกิจเราก็มีหน้าที่ระวังใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องระวัง ถ้าไม่ระวังแปลว่าเราหยาบเกินไป
ถาม : ถ้าไม่ระวัง เรียกว่าวางบนหัวคนอื่นหรือครับ ?
ตอบ : มีโอกาสก็ตักเตือน แต่ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังก็ปล่อยไป
ถาม : อย่างพระอรหันต์ท่านจบกิจแล้วก็ยังต้องทำดียิ่งขึ้น เพราะท่านต้องทำเป็นแบบอย่างใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ทำตัวเป็นแบบอย่าง เพื่อให้คนอื่นเขาทำตาม ไม่ใช่ว่าถึงเวลาทำเละ ๆ เทะ ๆ ให้คนอื่นทำตามก็บรรลัยหมด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2013 เมื่อ 07:53
|