พระอาจารย์ถามญาติโยมว่า "เคยลองสมมติสถานการณ์ไหมว่า ถ้าไม่มีไฟฟ้าสักครึ่งเดือนเราจะทำอย่างไร ? รับรองว่าถ้าบ้านหน้าตาแบบนี้ไม่มีคนอยู่ในบ้านหรอก  ถ้าวัดท่าขนุนไฟดับสักครึ่งวัน มีแต่พระโผล่อยู่หน้ากุฏิเต็มไปหมด  พวกเราเคยชินกับความสะดวกสบายที่เครื่องอำนวยความสะดวกเขาให้ ทั้งพัดลม โทรทัศน์ ตู้เย็น สารพัด พอไฟดับแล้ว ความเคยชินหายไปจะรู้สึกว่าลำบาก แต่ถ้าเราเฉย ๆ หรือไม่ก็ไม่ให้ความเคยชินเหล่านี้มาครอบงำเรา เราก็จะอยู่ได้สบาย ๆ 
 
จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ ไม่ค่อยได้ใส่รองเท้า กลัวอยู่อย่างเดียวคือหนามโคกกระสุน  พวกนี้เม็ดเกือบเท่าหัวแม่มือ มีหนามรอบเลย ถ้าไม่ใช่โคกกระสุนนี่ไม่กลัวหรอก เดินลุยได้ทุกอย่าง  ตอนไปโรงเรียนครั้งแรก ๆ ใส่รองเท้าแล้วรองเท้ากัด กว่าจะใส่รองเท้าได้ต้องพยายามอยู่เป็นปี      
 
แต่ความรู้สึกในยุคนั้น การเป็นนักเรียนเหมือนกับเป็นบุคคลอีกชนชั้นหนึ่ง แม้กระทั่งพ่อแม่ก็รู้สึกว่าปฏิบัติกับเราต่างจากปกติ เพราะคนสมัยก่อนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้หนังสือ พอมีคนรู้หนังสือแล้ว รู้สึกว่าเหมือนกับเขาให้เกียรติเรามากกว่าปกติ แม้เราจะเป็นเด็ก แต่ถ้าเราอ่านหนังสือออก ผู้ใหญ่เขาก็จะชื่นชม  
 
เวลานั่งรถเมล์ด้วยกันเยอะ ๆ เขาจะถาม “ไอ้โน่นอะไรไอ้หนู ไอ้นี่อะไรหนู”  ถ้าอ่านออกเขาจะปลื้มกันใหญ่ แต่ก็แปลก...โยมแม่อ่านหนังสือไม่ออก แต่ไปได้ทั่วไปหมด เพราะจำทางได้หมด" 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2013 เมื่อ 02:41
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |