เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๖
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อกลางวันฉันเพล ได้คุยกับมหาติ๊กเรื่องติดดี คือเมื่อปฏิบัติไปแล้วรู้สึกว่าตัวเองดี พอถามต่อไปว่ารู้ได้อย่างไรว่าตัวเองดี “อ๋อ...เปรียบเทียบกับคนอื่นเขา” ก็โดนเต็ม ๆ เท่านั้นแหละพ่อคุณ..! ถ้าเปรียบเทียบกับคนอื่นก็กลายเป็นสักกายทิฏฐิกับมานะถือตัวถือตน เพราะฉะนั้น..การปฏิบัติต้องพึงระมัดระวังให้หนัก ถ้าเผลอเมื่อไรก็เรียบร้อย
เคยคุยกับโยมว่า สมัยก่อนที่ปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ เมื่อทุ่มเทให้กับหลักการปฏิบัติของหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็อยู่ในลักษณะที่ว่ามอบกายถวายชีวิต จนเรียกคนอื่นเป็นหลวงพ่อไม่ได้ ปลื้มอกปลื้มใจว่าชีวิตนี้เรามีครูบาอาจารย์ที่สุดยอดอย่างนี้แล้ว ไม่มีใครเหนือกว่า พอปฏิบัติไป ๆ ดูไปดูมา โอ้โฮ...สังโยชน์ตัวใหญ่เบ้อเร่อเลย สังโยชน์ซ้อนสังโยชน์ด้วย ก็คือเป็นทั้งสักกายทิฏฐิ เป็นทั้งมานะถือตัวถือตน คุณยิ่งปฏิบัติต้องยิ่งดีขึ้น ถ้ายิ่งดีขึ้น ก็ต้องยิ่งลดเรื่องของสักกายทิฏฐิและมานะลงได้ แต่นี่ลดลงไม่ได้ไม่พอ กลายเป็นเหยียบคนอื่นไปอีกต่างหาก กลายเป็นว่าพอทำดีแล้วติดดี ก็ไปไหนไม่รอด แต่กว่าจะรู้ตัวก็นาน
เรื่องอย่างนี้ต้องพิจารณาแบบไม่เข้าข้างตัวเอง ดูให้รอบด้าน ดูให้ทุกเรื่อง ถ้าไม่อย่างนั้นก็แปะอยู่แถวนั้นแหละ ก็ดีเสียแล้วนี่ เลยไม่พัฒนาตัวเองต่อ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 02:45
|