มีผู้นำหนังสือพระเครื่องไปถวายพระอาจารย์ ท่านดูไปแล้วเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่าง ๆ ให้ฟัง "ตอนพระครูแสงท่านศึกษาเรื่องพระเครื่องแทบเป็นแทบตาย ท่านบ่น ๆ มาเข้าหูอาตมา อาตมามองแล้วก็จำ พอถึงเวลาเจ้าตัวลืมแล้วแต่อาตมายังจำได้ แค่เห็นรูปเห็นเหรียญก็แยกวัดแยกพิมพ์ได้แล้ว
แม้กระทั่งเรื่องคาถาอาคม อักขระเลขยันต์จริง ๆ ก็เริ่มที่พระครูแสงทั้งนั้นแหละ ท่านหัดลบผง ทำผงปถมัง ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ขึ้น พินทุเอกัง สุมังพันธัง นะกุเอกัง สุมังพันธัง ฯลฯ ว่าไปเรื่อย ๒๐ ปีให้หลังไปถามท่านลืมหมดแล้ว แต่ยังอยู่ในหัวอาตมาเลย ท่านไม่นึกหรอกว่าที่ท่านว่าไปเรื่อย ๆ แล้วเข้าหู อาตมาได้ยินแล้วจะจำได้ขนาดนั้น เพราะสมัยฆราวาสนอนอยู่ห้องเดียวกัน
การเล่นพระเครื่องนั้นเซียนเขาแยกง่าย ๆ ว่าก่อน พ.ศ.๒๕๐๐ กับหลัง พ.ศ.๒๕๐๐ ถ้าหลังพ.ศ. ๒๕๐๐ นี่เขาถือว่าเป็นพระเครื่องรุ่นใหม่ รูปนี้เป็นเหรียญหล่อหลวงพ่อวัดบ้านแหลม สมัยก่อนชาวบ้านเขาเรียกว่า “คุณพ่อวัดบ้านแหลม”
เหรียญหล่อของเก่าจุดตายจะอยู่ตรงขอบเหรียญ เพราะว่าใช้เลื่อยฉลุ ฉะนั้น..จะมีรอยเลื่อยอยู่ ถ้าเป็นพระบูชาดูที่ฐาน ถ้าเป็นของเก่า รอยตะไบจะเป็นแนวตรง ถ้าเป็นของรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ใช้หินเจียรหมุน รอยจะโค้ง สายตาต้องดีพอ โค้งก็โค้งนิดเดียว เพราะขอบพระไม่กว้าง ฉะนั้น..ที่แนวตรงเลยกับโค้งจะต่างกัน แค่เราพลิกขึ้นมาก็จะเห็น
เหรียญมหาสมณุตตมาภิเษกของกรมสมเด็จพระปวเรศฯ นี่บางคนเรียกว่าเหรียญบาตรน้ำมนต์ เพราะท่านตั้งใจให้เป็นเหรียญทำน้ำมนต์เลย จะเป็นเหรียญที่ใหญ่มาก เป็นที่ระลึกงานมหาสมณุตตมาภิเษกของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปวเรศวริยาลงกรณ์ วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ร.ศ.๑๑๐ ก็ พ.ศ.๒๔๓๕ เพราะว่า พ.ศ.๒๓๒๕ เป็น ร.ศ.๑ เราก็เอาจำนวน ร.ศ.บวก ๒๓๒๕ เข้าไป"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2013 เมื่อ 02:26
|