| 
				  
 
			
			ถาม : เราสวดมนต์ทุกวันกับนั่งสมาธิอย่างไหนจะดีกว่าคะ ? ตอบ : ถ้าสวดมนต์เป็นก็คือนั่งสมาธินั่นแหละ แต่เป็นสมาธิขณะที่เราทำอย่างอื่นด้วย  ส่วนการนั่งสมาธิถ้าไม่ใช่คล่องตัวจริง ๆ ยังสู้สวดมนต์แล้วทรงสมาธิไม่ได้  เพราะว่าการที่เราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วทรงสมาธิได้ กับการที่เรานั่งสมาธิเฉย ๆ  ความสำเร็จและความสามารถเป็นคนละระดับกัน
 
 นั่งเฉย ๆ ได้สมาธิ ถ้าขยับอาจจะหลุดไปเลย  แต่ถ้าเราทำอย่างอื่นแล้วทรงสมาธิได้  สมาธิก็จะอยู่กับเราได้นาน  ฉะนั้น..ถ้าเราสวดมนต์ยาว ๆ จนทรงสมาธิทรงตัวได้ ต่อไปก็ทำอย่างอื่นไปด้วยได้
 
 ถาม : เวลาสวดแล้วจิตสงบมั่นคงดีค่ะ
 ตอบ : การสวดมนต์ถ้าเราทำเป็นถึงพระนิพพานได้  อันดับแรกก็คือสมาธิขั้นต้นต้องได้แน่นอน  ถ้าสมาธิไม่ทรงตัวเราจะสวดผิด  อันดับที่สองถ้าตั้งใจที่จะทรงฌาน ใช้คำสวดทั้งหมดเป็นคำภาวนา  เท่ากับว่าเราภาวนาโดยใช้คาถาทั้งบท  แต่เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อย   จนกระทั่งสมาธิสามารถทรงตัวได้ตามที่ต้องการ
 
 อันดับต่อไปถ้าจะทำทิพจักขุญาณ  เวลาสวดมนต์ให้นึกถึงคำสวดมาเป็นคำ ๆ  ถ้าเห็นตัวหนังสือได้ชัดเท่าไร  เราก็จะเห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น  ท้ายสุดถ้ายกจิตขึ้นพระนิพพานได้  ให้ยกจิตขึ้นไปสวดถวายพระพุทธเจ้าข้างบนเลย  ตายตอนนั้นก็อยู่บนพระนิพพานเลย   เพราะฉะนั้น..อย่าไปคิดว่าแค่สวดมนต์  สำคัญว่าเราทำได้แค่ไหน  ถ้าเราทำเป็น ประยุกต์ใช้เป็น  แค่สวดมนต์ไปพระนิพพานได้สบาย
 
 ถาม : สวดมนต์บทใดก็ได้ ?
 ตอบ : อะไรก็ได้  ยิ่งสวดเยอะยิ่งดี  อย่างน้อยขณะที่เราสวดอยู่ เราก็ทำความชั่วไม่ได้  ทำความชั่วทางกายไม่ได้ เพราะนั่งอยู่ตรงนั้นต่อหน้าพระ  ทำความชั่วทางวาจาไม่ได้ เพราะปากต้องสวดมนต์  อย่างเก่งก็นึกแช่งคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง เป็นเพียงความชั่วทางใจเล็ก ๆ เท่านั้น
 
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2013 เมื่อ 17:23
 |