ดูแบบคำตอบเดียว
  #16  
เก่า 14-04-2013, 12:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,292 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อสักครู่มีโยมท่านหนึ่งถามว่า “โง่ในขันธ์ ๕ คืออะไร ?” อาตมาตอบว่า “แปลว่าจงโง่ต่อไป..!” โง่ในขันธ์ ๕ คือการยึดร่างกาย ถ้ายึดของตัวเองก็โง่ ๑ ชั้น ถ้ายึดลูกยึดเมียก็โง่ ๒ ชั้น โง่ ๓ ชั้น จะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว ร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา เป็นเพียงธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม ที่ประกอบกันขึ้นมา ให้เราที่เป็นจิตได้อาศัยชั่วคราว

เหมือนกับเราได้รถมาคันหนึ่ง เราก็ขับรถคันนั้น แต่เราไปยึดว่ารถคันนั้นเป็นของเรา ในเมื่อเป็นดังนั้นก็โดนอวิชชา คือความไม่รู้ปิดบังไว้ เขาถึงได้กล่าวว่าโง่ ซึ่งความจริงร่างกายก็เหมือนกับรถยนต์ ถึงเวลาร่างกายพังก็เหมือนกับรถพัง เราที่ทำความดีความชั่วไว้ ก็ต้องไปใช้รถคันใหม่ตามบุญตามกรรมที่ตัวเองทำมา

ถ้าสร้างความดีไว้มาก ก็ได้กายมนุษย์ที่มีความสุข ได้กายเทวดา กายนางฟ้า กายพรหม เช่นนี้ถือว่าได้รถดี ๆ มีคุณภาพ ขับขี่ได้อย่างสบายใจ ถ้าสร้างความชั่วเอาไว้มาก ก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ที่ลำบากยากจน เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์นรกก็ถือว่าขาดทุน ก็แปลว่าได้รถพัง ๆ นอกจากยี่ห้อไม่ดีแล้วคุณภาพยังใช้ไม่ได้อีกด้วย

แต่ถ้าเราสามารถทิ้งรถไปเลยโดยไม่ต้องใช้อีก ก็จะเป็นเรื่องที่น่าโมทนาเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่น้อยคนที่ตัดละร่างกายนี้ได้จริง ๆ เพราะว่าในปัจจุบันแค่ร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรายังดูกันไม่ออก แล้วก็ยังยึดเพิ่มมาอีก ว่านั่นสามีเรา นี่ภรรยาเรา นั่นลูกเรา นี่หลานเรา ก็เลยกลายเป็นความโง่หลายชั้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ดังนั้นท่านที่ถามตอนนี้ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าคำว่าโง่ในขันธ์ ๕ คืออะไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2013 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา