ดูแบบคำตอบเดียว
  #64  
เก่า 28-03-2013, 20:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,637
ได้ให้อนุโมทนา: 158,515
ได้รับอนุโมทนา 4,488,499 ครั้ง ใน 36,246 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "นักปฏิบัติธรรมควรจะลดความอยากลงไหม ? คราวนี้ภาษาไทยของเราจำกัด ความอยากในการทำความดี บาลีเขาเรียกว่าธรรมฉันทะ ถ้าความอยากในการกอบโกยในสิ่งอื่น ๆ เข้าหาตัว ก็คือรัก โลภ โกรธ หลง เขาเรียกว่าตัณหา ต่างกันชัดมาก แต่ภาษาไทยเราใช้คำว่าอยากเหมือนกันหมด

แบบท่านที่ไปฝึกปฏิบัติที่วัด เวลาเราปฏิบัติไป ถ้าเป็นสายพองหนอยุบหนอ การเคลื่อนไหวทุกอย่างท่านจะให้กำหนดต้นจิต คือตัวระลึกก่อนว่า "อยาก" อย่างเช่นว่า อยากเดินหนอ อยากนั่งหนอ เราอาจจะไปเถียงว่าไม่อยากก็ได้อยู่ แต่คราวนี้ถ้าไม่อยากแล้วคุณจะทำอย่างนั้นทำไม ? เพียงแต่เป็นความอยากที่ฝังลึกอยู่ แล้วเรามองไม่เห็น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยกลายเป็นว่า ภาษาไทยเรามีความจำกัดมากไปหน่อย เราใช้คำว่าอยากเหมือนกัน แต่อยากดีกับอยากชั่ว เป็นคนละอย่างกัน แล้วบาลีเขาแสดงชัด อยากทำดี พอใจที่จะทำความดีเป็นฉันทะ แต่อยากชั่วเป็นตัณหา เป็นความอยากที่ทำให้ตนเกิดความทุกข์มากกว่า

ดังนั้น..ในเรื่องของฉันทะ ส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่อความดี ความงาม ความเจริญ ในเรื่องของตัณหา ส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่อที่จะทำให้ตนเองยึด เกาะ ติด อยู่กับสิ่งต่าง ๆ แล้วหลุดพ้นไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2013 เมื่อ 03:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา