พระอาจารย์กล่าวว่า "ผ้าที่ทอจากขนสัตว์ บาลีเขาเรียกว่า ผ้ากัมพล เขาจะมีสาณัง ผ้าป่าน อย่างเช่นทอจากป่านศรนารายณ์ ผ้าใยกัญชาพวกนั้น โขมัง ผ้าเปลือกไม้ กัปปาสิกัง ผ้าฝ้าย โกเสยยัง ผ้าไหม กัมพะลัง ผ้าขนสัตว์ ภังคัง ผ้าแกมกัน อย่างสมัยนี้พวกผ้าโทเรผสม มีฝ้าย ๓๐ เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าเทคนิคสมัยก่อนเขาเก่งกว่า เขาทำผ้าแกมกันได้มานานแล้ว
ผ้าที่สำคัญในพระศาสนาที่กล่าวถึงไว้ ก็คือผ้าสิงคิวรรณ สิงคิแปลว่าทองคำ สิงคิวรรณแปลว่าสีเหมือนทองคำ ที่ปุกกุสสะมัลลบุตรถวายพระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพาน แล้วพระพุทธเจ้าท่านก็เก็บไว้ใช้เองผืนหนึ่ง มอบให้พระอานนท์ผืนหนึ่ง พระอานนท์ไม่กล้าใช้เอามาถวายคืน พระพุทธเจ้าจึงนุ่งผืนหนึ่ง ห่มผืนหนึ่ง เสร็จแล้วรัศมีพระกายเปล่งปลั่งผิดปกติ พอพระอานนท์ถามถึงได้รู้ว่า วันก่อนตรัสรู้กับวันก่อนปรินิพพานจะสวยที่สุด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2012 เมื่อ 09:25
|