ถาม : ที่บอกว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำหน้าที่รักษาการณ์พระศาสนา คำว่า “รักษาการณ์พระศาสนา” หมายความว่าอะไรครับ ?
ตอบ : สรุปง่าย ๆ ว่าทำหน้าที่แทนพระพุทธเจ้า เช่น ทางโลกเราอาจจะมีพระสังฆราช แต่บุคคลที่ท่านมอบหมายให้ทำหน้าที่แทนจะเป็นใครก็อีกเรื่องหนึ่ง
ถาม : พระส่วนใหญ่มักจะทราบใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าพระที่ได้ตั้งแต่วิชชาสามขึ้นไปมักจะทราบ เรื่องนี้ถ้าไปพูดวัดแถว ๆ ปทุมฯ เขาไม่ยอมนะ เขามั่นใจว่าต้องเป็นอาจารย์เขา
หลังจากมีการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๒ มีการแตกออกเป็นมหายาน เถรวาท และนิกายต่าง ๆ รวมแล้ว ๑๐ กว่านิกาย มาดูในปัจจุบันบ้านเรา ถ้าเอาคำว่านิกายห้อยท้ายไปจะเห็นชัดเลย อย่างเช่น นิกายสันติอโศก นิกายธรรมกาย เพราะว่ามีวัตรปฏิบัติที่ต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้ไปด้วยกับคนอื่นเขา
ถ้าไปศึกษาดูคำสอนของเขา เป็นคำสอนที่จะดึงคนให้สร้างประโยชน์ให้กับเขาให้มากที่สุด เช่น ในเรื่องของสวรรค์ ๖ ชั้น เขาบอกว่าบุคคลที่จะไปสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชจะต้องทำทานประมาณนั้นประมาณนี้ ไปชั้นดาวดึงส์ต้องทำทานให้ยิ่งขึ้นกว่า ไปชั้นยามาต้องทำทานยิ่งกว่าดาวดึงส์ ไปชั้นดุสิตต้องทำทานยิ่งกว่ายามา เพิ่มไปเรื่อย สรุปว่าเน้นตรงทานอย่างเดียวเพื่อให้บริวารสร้างทานเยอะ ๆ แล้วพวกทานนั้นก็จะส่งผลคือความสุขความสบายของพวกเขา
ตรงจุดนี้พอนาน ๆ ไปบรรดาท่านที่ศรัทธาก็จะเชื่อถือและยึดมั่น คำสอนนี้ก็จะเป็นอาจาริยวาท ก็คือยึดมั่นในคำสอนของอาจารย์ เรื่องของอาจาริยวาทนี่แหละที่ทำให้บรรดามหายานก็ดี เถรวาทก็ดี แตกออกเป็นสารพัดสาย เป็นนิกายนั้นนิกายนี้เต็มไปหมด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2013 เมื่อ 01:56
|