"พอไปถึงหลวงปู่ปานก็บอกว่าท่านปรารถนาพระโพธิญาณมา หลวงพ่อวัดท่าซุงก็ปรารถนาพระโพธิญาณมา จึงให้มาเสี่ยงสัตย์อธิษฐานกับรูปหล่อหลวงพ่อพระศรีอาริยเมตไตรยด้วยกัน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็คิดว่า “เอ..เราจะเคยปรารถนามาหรือ ?” หลวงปู่ปานท่านก็อธิษฐานเสียงดังเลยว่า ถ้าท่านสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้จริง ก็ขอให้ยกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้น
ปรากฏว่าหลวงปู่ปานยกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้น ท่านบอกว่าเบาอย่างกับกระดาษ ท่านยกเหมือนไม่ได้มีน้ำหนักเลย หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็แปลกใจว่าตอนยกจากเรือขึ้นบนศาลาใช้คน ๘ คน หลวงปู่ปานก็ไม่ได้รูปร่างใหญ่โตแข็งแรงอะไร ยก ๒ มือลอยอย่างกับยกกระดาษ แล้วหลวงปู่ปานก็บอกว่า “เอ้า..แกอธิษฐานดูบ้าง”
หลวงพ่อวัดท่าซุงหน้าเหี่ยวเลย บอกว่า “จะไหวหรือครับหลวงพ่อ ?” หลวงปู่ท่านก็บอก “ไหวสิ” ท่านก็อธิษฐานพูดอ้อม ๆ แอ้ม ๆ หลวงปู่ปานไม่ยอมก็ดุเอา “อธิษฐานต้องว่าดัง ๆ จะได้แสดงว่ากำลังใจของเราเต็ม” หลวงพ่อท่านอธิษฐานว่า ถ้าท่านจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ขอให้ยกขึ้น ก็ยกขึ้นเหมือนกัน ท่านบอกว่าเบาเหมือนยกลังกระดาษใบหนึ่ง แสดงว่าเทวดาท่านช่วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2012 เมื่อ 03:04
|