ถาม : ในรูปนี้เป็นต้นกล้วยที่หลวงปู่อุตตมะใช้ทำประคำ ?
ตอบ : เขาเรียกกล้วยโทนหรือกล้วยแสนหวี ประคำโทนก็มาจากต้นกล้วยนี่แหละ เพราะเป็นกล้วยที่ไม่มีหน่อ เกิดด้วยเมล็ด สมัยที่อาตมาเจอใหม่ ๆ ก็แปลกใจว่ากล้วยอะไรโตเป็นโอบเลย ขนาดโอบยังไม่ค่อยจะรอบ เวลาผลออกมาเครือจะยาวมาก เรียงกันเป็นร้อย ๆ หวี เขาจึงเรียกกล้วยแสนหวี ต้นนี้ขึ้นอยู่หน้าถ้ำที่อาตมาไปพักตอนธุดงค์พอดี
เวลานอนอยู่ในถ้ำนั้นแรก ๆ อาตมาก็หวาดเสียว มีแขกมาเยี่ยมอยู่เรื่อย จริง ๆ แล้วเป็นที่อยู่ของเขา พอพระมาอยู่เขาก็มาเมียงมองว่าเมื่อไรจะไปสักที ไปแล้วเขาจะได้เข้ามาอยู่ตามเดิม ตอนที่เขามานี่ขนลุกเกรียวเลย อาตมาเหลือบไปดู “อ้าว...มาแล้ว” พอเห็นพระมองเขาก็ถอย จะว่าไปแล้วพวกผีเขามีมารยาท ที่ของเขาแท้ ๆ พระไปแย่งอยู่ เขายังอุตส่าห์ยอมอดทน
เวลาไปอยู่ที่ไหนให้ตั้งใจแผ่เมตตา บอกเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของสถานที่ทั้งหมด ว่าเราขอมาอยู่อาศัยเพื่อปฏิบัติธรรมเพียงชั่วคราว ไม่ได้ยึดครองเป็นของส่วนตัว ถึงเวลาก็จะไป ความดีทั้งหมดที่เราทำในช่วงนั้นขอให้เขาโมทนาด้วย เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าไรขอให้เขาได้รับด้วย ถ้ามีอันตรายใด ๆ มาถึงก็ให้ช่วยคุ้มครองป้องกันให้ด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้อยู่ที่ไหนก็สบาย ไปแล้วให้รู้จักติดสินบนบ้าง..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2012 เมื่อ 16:34
|