ดูแบบคำตอบเดียว
  #73  
เก่า 22-12-2012, 12:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,383
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปกติแล้วที่ดินวัด โดยพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์มีอยู่ ๓ ประเภทด้วยกัน ก็คือ ที่ตั้งวัด เป็นสถานที่ซึ่งวัดวาอารามนั้นตั้งอยู่ ประเภทที่ ๒ คือที่ธรณีสงฆ์ เป็นพื้นที่ของวัด อยู่มุมไหนของโลกก็ได้ เป็นคนละผืนกับที่ตั้งวัด และที่กัลปนา เป็นที่ซึ่งเจ้าของอุทิศเฉพาะผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในที่ผืนนั้นให้แก่ทางวัด อย่างเช่น ปวารณาว่าที่ดิน ๒๐ ไร่ที่ปลูกข้าวนี้ ถวายสงฆ์เป็นกัลปนา ถ้าเกี่ยวข้าวได้แล้ว แล้วแต่ทางวัดว่าจะเอาข้าวไปทำอะไร แต่ที่ผืนนั้นยังเป็นของเจ้าของอยู่

ก็เลยไม่แน่ใจว่าบ้านวิริยบารมีหลังนี้ตั้งใจให้เป็นที่กัลปนาหรือเปล่า ? เขาถวายมาแต่กุญแจบ้าน ถ้าใช่จะได้เปิดให้เช่าเสีย โดยเฉพาะถ้าอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้นะ เวลาใครขี้เกียจเดินทางก็มาเช่านอนเสาร์-อาทิตย์

เขาใช้คำว่า "กัลปนาผล" ผลที่เกิดขึ้นในที่นั้น อย่างเช่น ที่ดิน ๑ ไร่มีลำไยอยู่ ๔๐๐ กว่าต้น เวลาลำไยนี้เกิดผล ขอถวายเป็นกัลปนาให้แก่ทางวัด วัดก็ไปจัดการเอาเอง จะติดต่อให้พ่อค้ามาซื้อหรือตกลงให้เขาเก็บกันเอง อะไรก็แล้วแต่ เวลาคิดราคาท้องตลาดได้เท่าไรก็มาถวายพระ ไว้ใช้จ่ายในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่อไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2012 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา