พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้คนทองผาภูมิตายติด ๆ กัน ตั้งแต่เดือนที่แล้วถึงเดือนนี้ ๖ ศพเฉพาะฆราวาส พระมรณภาพไปอีก ๓ รูป รวมแล้ว ๙ ศพ ตอนนี้ศพยังคาวัดท่าขนุนอยู่เลย
คนเราเวลาตกน้ำแล้วมักจะรีบเปิดรถตะกายหนี ตอนเปิดรถน้ำจะทะลักเข้าไป แล้วจะดันเราออกไม่ได้ เวลารถตกน้ำต้องตั้งสติให้ดี ๆ ดูว่าด้านไหนที่ไม่จม แล้วเปิดกระจกมุดออกมาด้านนั้น อย่าไปเปิดประตูพรวดเดียว ถ้าทำอย่างนั้นน้ำจะทะลักดันเข้า เราจะออกไม่ได้ แล้วรถจะจมเร็วมาก เพราะว่าอากาศหมด แต่ถ้าเราไม่รีบเปิดประตู รถจะลอยอยู่ได้ระยะหนึ่ง
น่าจะปี ๒๕๒๖ เขาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงอุทัยธานี รถทุกคันก็เลยต้องผ่านหน้าวัดท่าซุงแทน ไม่รู้รถทัวร์ลงแพท่าไหน วิ่งเลยแพแล้วตกน้ำไปเลย ด้วยความที่คนตกใจนั่นแหละ ทุบกระจกจะตะกายออก น้ำก็ทะลักเข้าไป ตัวเองก็ตะกายไม่ออก รถก็จม สรุปว่างานนั้นเจอไป ๑๙ ศพ..!
มีโยมอยู่ครอบครัวหนึ่งรถเต็มบ้านเลย รถเก่า ๆ หมดสภาพแล้ว แต่เขาตัดใจขายไม่ได้ คันนั้นก็ใช้มา ๕ ปี คันนี้ก็ใช้มา ๘ ปี รักรถ
สรุปแล้วต้องเสียเงินต่อทะเบียนทุกปี รถไม่ได้ใช้เลย ต้องเสียเงินต่อทะเบียนปีละเป็นแสน ขนาดรถเก่า ๆ ยังตัดใจไม่ได้ แล้วจะตัดร่างกายได้ไหมนั่น ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:18
|