ใครว่าอะไรดีที่ไหน..เราดีด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องตะเกียกตะกายไปจนถึงที่ เพราะว่าท้ายสุดแล้วหลักธรรมทุกอย่างก็อยู่ที่เราปฏิบัติเอง ใครทำใครได้ ทำแทนกันไม่ได้
การศึกษาหลักธรรมเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเรียนมากไปก็เสียเวลา จับหลักอันใดอันหนึ่งได้ แล้วรีบตะเกียกตะกายทำให้สำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้วหากยังปีติน่าภูมิใจอยู่ เราก็ค่อยทำอย่างอื่นต่อไป ไม่ใช่ตีอวนจะเอาปลาทั้งทะเล ถ้าตีอวนจะเอาปลาทั้งทะเล โอกาสที่จะได้ก็ยาก เพราะหนักเกินกำลังของเรา ต่อให้สมัยนี้มีเครื่องมือดี ๆ แบบพวกเรือประมงระดับโลก แต่ถ้าไปเอาปลาทั้งทะเล เครื่องก็จะหักจะพังเสียหมด
ดังนั้น ถ้าเราจับจุดใดจุดหนึ่งใน ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ชอบใจได้ ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำจนเกิดผล แล้วหลังจากนั้นถ้ายังมีอารมณ์จะทำต่อ ค่อยขยับไปที่อื่น เพียงแต่ว่าในเรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ถ้าเราทำเป็น...กองเดียวจริง ๆ ก็จบ หัวข้อเดียวจบเลย ถ้าจบแล้วยังไม่หายคันก็เชิญทำอย่างอื่นต่อ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระอริยเจ้าท่านหายคันตั้งแต่ยังไม่ทันจะจบ
เรียนรู้ไว้ดี แต่ถ้าหากความรู้ท่วมหัวแล้วเอาตัวไม่รอด บางทีจะโดนคนอื่นเขาเยาะเย้ยเอาเสียด้วย ที่เขาบอกว่า รู้มากยากนาน นั่นก็ดี นี่ก็น่าปฏิบัติ ว่าแล้วก็เล่นไปเรื่อย ไม่จบสักที ก็เลยไปลงตรง รู้น้อยพลอยรำคาญ ความรู้ไม่พอใช้งาน เอาแค่รู้พอดี ๆ ถ้าหากว่ารู้พอดี ทำพอดี ทุกอย่างก็เกิดผลเร็ว
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์
๗ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2015 เมื่อ 16:48
|