"หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ความจริงหลวงปู่พระครูโวฯ ท่านรู้ว่าท่านหมดอายุ แต่งานยังมีอยู่ ก็เลยจัดงานศพตัวเองเป็นการสะเดาะเคราะห์ใหญ่ เวลาใครถามท่านก็บอกว่า “ข้าตายแล้วไม่ได้เห็น จัดตอนเป็นนี่แหละ จะได้รู้ว่าพวกเอ็งทำอะไรให้ข้าบ้าง”
ท่านเป็นองค์ที่หลวงพ่อเล่าให้ฟังตลก ๆ ว่า พอเสียงหวอขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีเครื่องบินมาทิ้งระเบิด หลวงปู่ท่านเผ่นไปนอนอยู่กับชาวบ้านกลางทุ่ง พอเสียงหวอบอกว่าเครื่องบินผ่านไปแล้ว ชาวบ้านก็กลับขึ้นศาลา หลวงปู่พระครูโวฯ ก็เดินตุ้บตั้บมาพร้อมกับย่าม และคัมภีร์ที่ถือติดมือไปด้วย หลวงพ่อท่านยังนั่งอยู่บนธรรมาสน์ พอหลวงปู่ขึ้นมาถึงก็ใส่เลย “ตัวเองเป็นพระเป็นเจ้า สอนชาวบ้านเขาให้รู้จักมรณานุสติ จะได้ไม่กลัวความตาย แต่นี่วิ่งก่อนเลย”
หลวงปู่ท่านถามว่า “มึงว่าใครวะ ?” หลวงพ่อท่านก็ว่า “ไอ้คนไหนทำอย่างนั้น ก็ว่าคนนั้นแหละ” หลวงปู่ชี้หน้ามาบอกว่า “ไอ้ที่มึงว่าแสดงว่าไม่รู้นะสิ ว่ามึงน่ะอกตัญญู” ถามว่าอกตัญญูตรงไหน ? ท่านบอกว่า “มึงรู้ไหม กูนี่พระสงฆ์ ไอ้ที่ในมือกูถือนี่นะพระธรรม แล้วที่คอสวมพระเอาไว้ทั้งพวง นี่แหละพระพุทธ กูไปครบพระรัตนตรัย ตามไปคุ้มครองโยม มึงเสือกนั่งอยู่บนศาลา มึงนั่นแหละอกตัญญู” เป็นอาตมาก็ไปไม่เป็นแล้ว ท่านไปได้ลื่นเลย
พอเทศน์เสร็จหลวงพ่อเข้าไปกราบขอขมา “ขออภัยครับหลวงพ่อ ต้องเล่นครับ เพราะได้มุมพอดี” หลวงปู่ท่านบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก รู้ท่าอยู่ว่าเอ็งเอาแน่” ต้องบอกว่าปฏิภาณท่านสุดยอดเลย ใส่ชนิดไม่ให้ตั้งหลัก ท่านยังไปได้ลื่น ๆ เลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2012 เมื่อ 16:34
|