![]() |
การเข้าสมาธิเพื่อให้เกิดผลที่ต้องการ
เนื่องจากผมได้เคยทำสมาธิจนถึงจุดที่จิตรวมเป็นจุดเดียว พอถึงจุดนั้นแล้ว
จะมีความรู้สึกแน่นหนามั่นคง นิ่งสงบ เป็นจุดที่รู้สึกว่าอยู่แบบนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ บางทีก็อยู่ได้นานสองชั่งโมง บางทีก็อยู่ได้นานถึงหกชั่วโมง พอทำแบบนั้นได้แล้ว ก็สามารถเข้าได้บ่อย ๆ จนวันหนึ่งได้มีคนบอกว่าหลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านเคยบอกให้คนภาวนาเพื่อให้ลูกหนี้นำเงินมาคืน เพราะลูกหนี้ค้างเงินเป็นแสนแล้วไม่นำมาคืนสักที โดยให้ภาวนาเป็นคำพูดภาษาไทยง่าย ๆ ว่าขอให้เขานำเงินมาคืน ปรากฎว่า คนนั้นได้ทำตามที่หลวงพ่อชาท่านบอก ภาวนาไปจนจิตสงบ ไม่กี่วันต่อมา ลูกหนี้ก็นำเงินมาคืนจริง ๆ ผมสนใจวิธีการนั้น ก็เลยลองทำดูบ้าง คือ ภาวนาเป็นคำพูดภาษาไทยในใจให้เข้าจังหวะกันกับลมหายใจเข้าออก ทำไปจนจิตถึงจุดที่แน่นหนามั่นคง สงบ และรู้สึกว่า จุดนี้แหละที่คำขอต้องได้ผล พอค้างอยู่อย่างนั้นสักพักก็หยุด หลายวันต่อมา สิ่งที่ขอก็ปรากฎว่าได้ผลจริง ๆ จากนั้นก็เลยคิดว่า อยากจะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ คิดว่าตัวเองจะเข้าสมาธิถึงระดับนั้นได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้ ก็เลยประมาท ไม่ค่อยจะฝึกสมาธิสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เข้าสังคมอยู่ นาน ๆ ทีจะทำ และการจะขออะไรสักอย่าง ก็ต้องรู้สึกอยากได้จริง ๆ จึงจะทำ แต่ในช่วงนั้นไม่ได้รู้สึกอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็เลยไม่ได้ขออะไร มาช่วงนี้ รู้สึกมีสิ่งที่อยากได้เยอะมาก แต่พอลองเข้าสมาธิแล้ว ยังไม่สามารถเข้าถึงสมาธิในจุดนั้นได้ ยิ่งพอภาวนาคำพูดที่ต้องการด้วย ก็ยิ่งฟุ้งซ่าน พอรู้สึกว่าสมาธิใกล้จะถึงจุดนั้นแล้ว ก็รีบพูดคำที่ต้องการ สมาธิก็คลายตัว แต่พอลองพยายามไม่พูดในใจ พอจิตเริ่มที่จะรวมตัว ก็รู้สึกว่า ถ้าถึงจุดที่สงบนั้นจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ต้องการอะไรอีก เพียงแค่เข้าไปแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้นก็รู้สึกว่าแค่นั้นก็พอแล้ว ก็เลยรีบพูดคำที่ต้องการใหม่ สมาธิก็คลายตัวอีก แล้วก็วนกันอยู่อย่างนี้ เท่าที่ผมคิด ผมคงมีแต่ต้องเข้าสมาธิให้ถึงระดับนั้นจริง ๆ ไปก่อน ก็อาจจะต้องเข้าบ่อย ๆ เพื่อให้ชำนาญ แม้ความต้องการของผมจะไม่ได้ชั่วร้ายอะไรมาก แต่ก็กลัวว่า พอเข้าถึงสมาธิในจุดนั้นแล้ว อาจจะเกิดอาการพอใจแค่นั้นขึ้นมา แล้วก็อาจจะไม่รู้สึกอยากได้อะไรอีกเลย เหมือนที่เคยทำมา ไม่ทราบว่า คนที่ทำไสยศาสตร์นั้น เขาทำอย่างไรถึงทำให้สามารถเข้าสมาธิได้แม้จะมีเจตนาไม่ดีครับ และขั้นตอนที่เขาทำนั้นส่วนใหญ่เป็นแบบที่ใช้วิธีเข้าสมาธิแล้วอธิษฐานเอาเหมือนทั่ว ๆ ไปหรือไม่ครับ |
ถาม : เนื่องจากผมได้เคยทำสมาธิจนถึงจุดที่จิตรวมเป็นจุดเดียว พอถึงจุดนั้นแล้ว
จะมีความรู้สึกแน่นหนามั่นคง นิ่งสงบ เป็นจุดที่รู้สึกว่าอยู่แบบนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ บางทีก็อยู่ได้นานสองชั่งโมง บางทีก็อยู่ได้นานถึงหกชั่วโมง พอทำแบบนั้นได้แล้ว ก็สามารถเข้าได้บ่อย ๆ จนวันหนึ่งได้มีคนบอกว่าหลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านเคยบอกให้คนภาวนาเพื่อให้ลูกหนี้นำเงินมาคืน เพราะลูกหนี้ค้างเงินเป็นแสนแล้วไม่นำมาคืนสักที โดยให้ภาวนาเป็นคำพูดภาษาไทยง่าย ๆ ว่าขอให้เขานำเงินมาคืน ปรากฎว่า คนนั้นได้ทำตามที่หลวงพ่อชาท่านบอก ภาวนาไปจนจิตสงบ ไม่กี่วันต่อมา ลูกหนี้ก็นำเงินมาคืนจริง ๆ ผมสนใจวิธีการนั้น ก็เลยลองทำดูบ้าง คือ ภาวนาเป็นคำพูดภาษาไทยในใจให้เข้าจังหวะกันกับลมหายใจเข้าออก ทำไปจนจิตถึงจุดที่แน่นหนามั่นคง สงบ และรู้สึกว่า จุดนี้แหละที่คำขอต้องได้ผล พอค้างอยู่อย่างนั้นสักพักก็หยุด หลายวันต่อมา สิ่งที่ขอก็ปรากฎว่าได้ผลจริง ๆ จากนั้นก็เลยคิดว่า อยากจะทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ คิดว่าตัวเองจะเข้าสมาธิถึงระดับนั้นได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้ ก็เลยประมาท ไม่ค่อยจะฝึกสมาธิสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เข้าสังคมอยู่ นาน ๆ ทีจะทำ และการจะขออะไรสักอย่าง ก็ต้องรู้สึกอยากได้จริง ๆ จึงจะทำ แต่ในช่วงนั้นไม่ได้รู้สึกอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็เลยไม่ได้ขออะไร มาช่วงนี้ รู้สึกมีสิ่งที่อยากได้เยอะมาก แต่พอลองเข้าสมาธิแล้ว ยังไม่สามารถเข้าถึงสมาธิในจุดนั้นได้ ยิ่งพอภาวนาคำพูดที่ต้องการด้วย ก็ยิ่งฟุ้งซ่าน พอรู้สึกว่าสมาธิใกล้จะถึงจุดนั้นแล้ว ก็รีบพูดคำที่ต้องการ สมาธิก็คลายตัว แต่พอลองพยายามไม่พูดในใจ พอจิตเริ่มที่จะรวมตัว ก็รู้สึกว่า ถ้าถึงจุดที่สงบนั้นจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ต้องการอะไรอีก เพียงแค่เข้าไปแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้นก็รู้สึกว่าแค่นั้นก็พอแล้ว ก็เลยรีบพูดคำที่ต้องการใหม่ สมาธิก็คลายตัวอีก แล้วก็วนกันอยู่อย่างนี้ เท่าที่ผมคิด ผมคงมีแต่ต้องเข้าสมาธิให้ถึงระดับนั้นจริง ๆ ไปก่อน ก็อาจจะต้องเข้าบ่อย ๆ เพื่อให้ชำนาญ แม้ความต้องการของผมจะไม่ได้ชั่วร้ายอะไรมาก แต่ก็กลัวว่า พอเข้าถึงสมาธิในจุดนั้นแล้ว อาจจะเกิดอาการพอใจแค่นั้นขึ้นมา แล้วก็อาจจะไม่รู้สึกอยากได้อะไรอีกเลย เหมือนที่เคยทำมา ไม่ทราบว่า คนที่ทำไสยศาสตร์นั้น เขาทำอย่างไรถึงทำให้สามารถเข้าสมาธิได้แม้จะมีเจตนาไม่ดีครับ และขั้นตอนที่เขาทำนั้นส่วนใหญ่เป็นแบบที่ใช้วิธีเข้าสมาธิแล้วอธิษฐานเอาเหมือนทั่ว ๆ ไปหรือไม่ครับ ตอบ : ถ้าทำด้วยความอยาก ทำให้ใจไม่นิ่งพอ จึงไม่ได้ผล |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:28 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.