![]() |
การพิจารณาในระหว่างสวดมนต์ภาวนา
ข้าพเจ้าได้ภาวนาพระคาถาเงินล้านไปสักพักหนึ่ง ก็เลยมีความรู้สึกว่าสวดแล้วเพลินอยากสวดไปเรื่อย ๆ ทีนี้พอสวดไปก็เกรงว่าจิตจะวอกแวก ก็เลยลองเริ่มพิจารณาดู พิจารณาในการละร่างกายและเห็นความเป็นจริงว่ามันไม่น่าต้องการ โดยระหว่างพิจารณาคิดในใจนั้น ก็ยังภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย ระหว่างพิจารณาร่างกายและความเป็นจริงนั้น ความรู้สึกเราคิดว่าพระท่านสอนเราก็พิจารณาตามที่ท่านสอนไปเรื่อย ๆ อีกใจหนึ่งที่พระท่านสอนก็เหมือนเราคิดเอง คำถามคือ
๑.ระหว่างที่ภาวนาพระคาถาเงินล้านและพิจารณาอย่างนี้เราจะได้อานิสงส์ของพระคาถาเงินล้านอยู่ไหม และสมควรทำหรือไม่ หรือว่าสมควรจะจดจ่ออยู่แต่คำภาวนากับภาพพระแค่นั้น ๒.อารมณ์ที่พิจารณานั้นจะว่าเหมือนว่าหลอกตัวเองก็ได้ที่เหมือนพระท่านสอนเรา คล้าย ๆ กับว่าเราคิดเอง ไม่ทราบว่าเราควรคิดว่าเราสอนตัวเองหรือพระท่านสอน เพราะอารมณ์มันก้ำกึ่งเหมือนกับว่าเราจะสอนตัวเองแบบนั้นก็ได้ เราควรรู้สึกว่าพระสอนหรือตัวเราสอนตัวเองดีครับ |
ถาม : ข้าพเจ้าได้ภาวนาพระคาถาเงินล้านไปสักพักหนึ่ง ก็เลยมีความรู้สึกว่าสวดแล้วเพลินอยากสวดไปเรื่อย ๆ ทีนี้พอสวดไปก็เกรงว่าจิตจะวอกแวก ก็เลยลองเริ่มพิจารณาดู พิจารณาในการละร่างกายและเห็นความเป็นจริงว่ามันไม่น่าต้องการ โดยระหว่างพิจารณาคิดในใจนั้น ก็ยังภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย ระหว่างพิจารณาร่างกายและความเป็นจริงนั้น ความรู้สึกเราคิดว่าพระท่านสอนเราก็พิจารณาตามที่ท่านสอนไปเรื่อย ๆ อีกใจหนึ่งที่พระท่านสอนก็เหมือนเราคิดเอง คำถามคือ ระหว่างที่ภาวนาพระคาถาเงินล้านและพิจารณาอย่างนี้เราจะได้อานิสงส์ของพระคาถาเงินล้านอยู่ไหม และสมควรทำหรือไม่ หรือว่าสมควรจะจดจ่ออยู่แต่คำภาวนากับภาพพระแค่นั้น ?
ตอบ : ได้ ถาม : อารมณ์ที่พิจารณานั้นจะว่าเหมือนว่าหลอกตัวเองก็ได้ที่เหมือนพระท่านสอนเรา คล้าย ๆ กับว่าเราคิดเอง ไม่ทราบว่าเราควรคิดว่าเราสอนตัวเองหรือพระท่านสอน เพราะอารมณ์มันก้ำกึ่งเหมือนกับว่าเราจะสอนตัวเองแบบนั้นก็ได้ เราควรรู้สึกว่าพระสอนหรือตัวเราสอนตัวเองดีครับ ? ตอบ : เอาที่สบายใจ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:34 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.