![]() |
การรักษาศีล๘ และ การรักษาใจไม่ให้คิดอิจฉาริษยา
นมัสการหลวงพ่อที่เคารพ หนูมีคำถามอยากจะขอเมตตาสอบถามหลวงพ่อดังนี้ค่ะ
๑. บางวันหนูได้อาราธนาศีล ๘ ก่อนนอน และหลับในศีล ๘ จนกระทั่งตื่นในตอนเช้า เสร็จแล้วก็ อาราธนาเป็นศีล ๕ ใหม่ เพราะว่าบางทีมีเหตุ ที่ไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ ในระหว่างวัน การที่หนูได้ทำแบบนี้จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย หรือไม่คะ ๒. หนูรู้ว่าหนูมีจิตที่คิดอิจฉาริษยาค่ะ เช่นไม่อยากให้ผู้อื่นได้ดีในสิ่งที่เขาจะได้รับ อยากให้ตัวเองได้รับในสิ่งนั้นแทน หนูรู้ว่ามีจิตคิดแบบนี้นั้นเลวมาก ซึ่งหนูไม่อยากให้ตัวเองมีจิตคิดแบบนี้ค่ะ หนูพยายามพิจารณาแล้ว แต่ก็ยังกลับมาคิดวนเวียนอยู่ หนูควรจะพิจารณาอย่างไรให้จิตยอมรับและพลอยยินดีกับผู้อื่นได้คะ ขอบพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาค่ะ |
ถาม : บางวันหนูได้อาราธนาศีล ๘ ก่อนนอน และหลับในศีล ๘ จนกระทั่งตื่นในตอนเช้า เสร็จแล้วก็อาราธนาเป็นศีล ๕ ใหม่ เพราะว่าบางทีมีเหตุที่ไม่สามารถรักษาศีล ๘ ได้ในระหว่างวัน การที่หนูได้ทำแบบนี้จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่คะ ?
ตอบ : ไม่ปรามาสแต่ขาดทุน เพราะว่าถึงเวลาเราก็ลดลงมารักษาแค่ศีล ๕ ทั้งที่บางทีเราอาจจะรักษาได้ตั้งเจ็ดข้อครึ่ง..! |
ถาม : หนูรู้ว่าหนูมีจิตที่คิดอิจฉาริษยาค่ะ เช่น ไม่อยากให้ผู้อื่นได้ดีในสิ่งที่เขาจะได้รับ อยากให้ตัวเองได้รับสิ่งนั้นแทน หนูรู้ว่ามีจิตคิดแบบนี้นั้นเลวมาก ซึ่งหนูไม่อยากให้ตัวเองมีจิตคิดแบบนี้ค่ะ หนูพยายามพิจารณาแล้ว แต่ก็ยังกลับมาคิดวนเวียนอยู่ หนูควรจะพิจารณาอย่างไรให้จิตยอมรับและพลอยยินดีกับผู้อื่นได้คะ ?
ตอบ : แผ่เมตตาบ่อย ๆ เราจะริษยาหรือไม่ริษยา เขาก็ได้รับผลอย่างนั้น เพราะว่าเขาได้ทำไว้ เราจะริษยาหรือไม่ริษยาเราก็ตาย เขาก็ตาย พิจารณาไว้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:58 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.