![]() |
ปัญหาในการเจริญพระกรรมฐาน
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพ
ลูกปฏิบัติพระกรรมฐานอยู่เป็นประจำ แต่จะพบอาการหลักอยู่ ๓ ประการ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง จึงขอบารมีพระอาจารย์เมตตาไขข้อข้องใจให้ลูกด้วยเถิดครับอาการของลูกคือ ๑. ภาวนาอยู่ภาพพระหายไป คำภาวนาหายไป สติหายไปเหมือนกับหลับ แล้วก็ฝันเป็นเรื่องเป็นราวทั้งที่นั่งตัวตรงอยู่ พอถอนออกมารู้สึกเพลียจนไม่สามารถพิจารณาต่อได้ ต้องนอนหลับ ๒. บางครั้งคำภาวนากลายเป็นเสียงพูดคุย บางครั้งเป็นเสียงฮัมเพลง แต่ไม่ได้สนใจว่าพูดอะไร พอรู้ตัวก็กลับมาเริ่มจับคำภาวนาใหม่ โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน พอภาวนาไปสักพักจะเริ่มภาวนาไม่จบ กลายเป็นเสียงพูดบ้าง ร้องเพลงบ้าง จนต้องเริ่มต้นภาวนาใหม่ ๓. บางครั้งรู้สึกสงบสงัดดีแล้ว ภาพพระกับคำภาวนาหายไป จะบังเกิดภาพบ่อน้ำใสสะอาด จิตเป็นสุขมาก โดยหลักแล้วจะพบอาการนี้ วนเวียนไปจนรู้สึกว่าไม่ก้าวหน้าสักที ขอบารมีพระอาจารย์เมตตาไขข้อข้องใจ และแนะนำในการปฏิบัติให้สมาธิก้าวหน้า จนมีปัญญาเฉียบคม สามารถตัดกิเลสจนถึงพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิดครับ |
ถาม : ลูกปฏิบัติพระกรรมฐานอยู่เป็นประจำ แต่จะพบอาการหลักอยู่ ๓ ประการ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง อาการของลูกคือ
- ภาวนาอยู่ภาพพระหายไป คำภาวนาหายไป สติหายไปเหมือนกับหลับ แล้วก็ฝันเป็นเรื่องเป็นราวทั้งที่นั่งตัวตรงอยู่ พอถอนออกมารู้สึกเพลียจนไม่สามารถพิจารณาต่อได้ ต้องนอนหลับ - บางครั้งคำภาวนาโดยเฉพาะพระคาถาเงินล้าน กลายเป็นเสียงพูดคุย บางครั้งเป็นเสียงฮัมเพลง แต่ไม่ได้สนใจว่าพูดอะไร พอรู้ตัวก็กลับมาเริ่มจับคำภาวนาใหม่ - บางครั้งรู้สึกสงบสงัดดีแล้ว ภาพพระกับคำภาวนาหายไป จะบังเกิดภาพบ่อน้ำใสสะอาด จิตเป็นสุขมาก โดยหลักแล้วจะพบอาการนี้ วนเวียนไปจนรู้สึกว่าไม่ก้าวหน้าสักที ขอบารมีพระอาจารย์เมตตาไขข้อข้องใจด้วยเถิดครับ ? ตอบ : ถ้าหากว่าสังเกตดูจะเห็นว่า อาการที่ลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไปมี ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือขาดสติ เมื่อขาดสติ สมาธิลึกกว่าปกติเข้าไป สติตามไม่ทัน อาการก็ตัดเหมือนกับหลับ ในเมื่อไม่มีสติควบคุม สภาพจิตก็เสวยอารมณ์ไปตามใจชอบของตนเอง ประการที่สองก็คือมีสติ การที่จะมีสติก็คือระลึกรู้อยู่เฉพาะหน้า สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น เพราะฉะนั้น..ก็มี ๒ วิธีด้วยกัน วิธีแรกก็คือ ถ้ารู้ว่าขาดสติก็เอาใจจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกให้แนบแน่นกว่านี้ ถ้าเผลอเมื่อไรก็จะหลุดหายไปอีก วิธีที่สองก็คือ ถ้าหากว่ารู้ตัวยังมีสติ ก็สักแต่ว่ารับรู้ อาการอะไรเกิดขึ้นก็อย่าไปให้ความสนใจมาก แค่เป็นผู้ดูผู้รู้อยู่เฉย ๆ ก็พอ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:20 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.