![]() |
ภาวะกิเลสตีกลับจนกรรมฐานแตก
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง
ขอกราบเรียนสอบถามเรื่องกิเลสตีกลับดังต่อไปนี้ การเกิดโทสะ มีอารมณ์โมโห รำคาญกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น โมโหหงุดหงิดกับเสียง เช่น เสียงไอ เสียงถุงพลาสติก เสียงขยับตัวเคลื่อนไหวของคนที่ได้ยินในขณะที่เรานั่งสมาธิ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นอาการกิเลสตีกลับ ซึ่งในกรณีนี้คือโทสะใช่หรือเปล่า -ภาวะกิเลสตีกลับแตกต่างจากกิเลสในจริตนิสัยสันดานอย่างไร -กิเลสตีกลับจนกรรมฐานแตก จะเกิดกับสมาธิภาวนาแบบใหน -ผู้ปฏิบัติธรรมจะมีวิธีสังเกตจิตใจของตัวเองได้อย่างไรว่าเป็นภาวะกิเลสตีกลับแล้ว -การรักษากำลังใจให้ทรงตัว ปกติเราใช้อานาปานสติ ภาวนาพุทโธ แต่ถ้าเราต้องทำงานหรือกิจกรรมที่ไม่สามารถทำได้ จะเปลี่ยนเป็นจับภาพพระบ้าง หรือสวดมนต์เช่นพระคาถาเงินล้านในใจบ้าง จะได้หรือไม่ -การคลายกำลังใจมาพิจารณาวิปัสสนาญาณ ใช้วิธีเปิดหนังสือธรรมะอ่านหาหัวข้อธรรมที่เราชอบและสนใจได้หรือไม่ และเมื่อเราจะจับมือถือเพื่อเปิดดูหรือกระทำการงาน นอกจากตั้งสติให้รู้ตัวเสมอแล้ว จะต้องกระทำหรือเพิ่มความระมัดระวังในกรณีเรื่องใดอีกบ้าง -เคยนั่งสมาธิแล้วเห็นเหมือนงูว่ายอยู่ในน้ำ ความรู้สึกเหมือนตัวเราเป็นงูตัวนั้น ภาพยังไม่ชัดเจนว่าเป็นงู อะไร จู่ ๆ คิดว่าไม่ควรสนใจ เลยกลับภาวนาต่อ ก็มีเสียงบอกว่า "ถ้าไม่สนใจ ต่อไปจะไม่ได้เห็นแล้วนะ" เลยนึกตอบเขากลับไปว่า "ไม่เห็นก็ดี จะได้ไม่เหนื่อย" พอตอบเขาไปแล้วก็กลับไปภาวนาต่อ หลังจากนั้นก็ยังเห็นภาพงูในน้ำลักษณะเดียวกันอีก ตอนนั่งสมาธิหลังสวดมนต์กับพระอาจารย์รูปหนึ่ง แต่ก็ตัดใจไม่สนใจ สรุปเสียงที่มาบอกในสมาธิครั้งแรกนี่เขาจะหลอกเราใช่หรือเปล่า |
ถาม : การเกิดโทสะ มีอารมณ์โมโห รำคาญกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น โมโหหงุดหงิดกับเสียงไอ เสียงถุงพลาสติก เสียงขยับตัวเคลื่อนไหวของคน ซึ่งได้ยินในขณะที่เรานั่งสมาธิแบบไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นอาการกิเลสตีกลับ ซึ่งในกรณีนี้คือโทสะใช่หรือเปล่า ?
ตอบ : โทสะร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ขณะเดียวกันพอจิตเริ่มสงบ กิเลสกลัวว่าตัวเองจะตาย ก็เลยต้องรีบเสวยอารมณ์ที่ตัวเองชอบ ก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง คราวนี้พอจิตเริ่มสงบ กำลังใจเริ่มสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ได้ละเอียดขึ้น ชัดเจนขึ้น ก็กระทบง่ายขึ้น เขาถึงได้บอกว่า "กิเลสนักปฏิบัติ" ต้องระวังเอาไว้ ประเภทวิปัสสนาขี้โกรธ สันโดษขี้ขอ อุเบกขาบ้ายอ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น ถาม : ภาวะกิเลสตีกลับแตกต่างจากกิเลสในจริตนิสัยสันดานอย่างไร ? ตอบ : เหมือนเดิมทุกประการ เพียงแต่ภาวะนี้อยู่ในลักษณะเริ่มโดนเก็บกด พอโดนกดมากเข้า กิเลสกลัวว่าจะตายก็ต้องสู้ แล้ว ก็ยันเราหงายท้องตึง ถาม : กิเลสตีกลับจนกรรมฐานแตก จะเกิดกับสมาธิภาวนาแบบไหน ? ตอบ : ไม่เกิดจากสมาธิอะไรหรอก กิเลสเกิดแสดงว่าสมาธิไม่ทรงตัว ถ้าสมาธิทรงตัว กิเลสจะเกิดไม่ได้ ถาม : ผู้ปฏิบัติธรรมจะมีวิธีสังเกตจิตใจของตัวเองได้อย่างไรว่าเป็นภาวะกิเลสตีกลับแล้ว ? ตอบ : จะไปยากอะไร ถึงเวลาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไล่งับหัวชาวบ้านเขาก็ใช่แล้ว...! |
ถาม : การรักษากำลังใจให้ทรงตัว ปกติใช้อานาปานสติ ภาวนาพุทโธ แต่ถ้าเราต้องทำงานหรือกิจกรรมที่ไม่สามารถทำได้ จะเปลี่ยนเป็นจับภาพพระบ้าง หรือสวดมนต์ เช่น พระคาถาเงินล้านในใจบ้าง จะได้หรือไม่ ?
ตอบ : อย่างไรก็ได้ อย่าให้กิเลสเกิดก็แล้วกัน |
ถาม : การคลายกำลังใจมาพิจารณาวิปัสสนาญาณ ใช้วิธีเปิดหนังสือธรรมะอ่านหาหัวข้อธรรมที่เราชอบและสนใจได้หรือไม่ ?
ตอบ : อาตมาหากินอย่างนั้นมาครึ่งชีวิต ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ? |
ถาม : เคยนั่งสมาธิแล้วเห็นเหมือนงูว่ายอยู่ในน้ำ ความรู้สึกเหมือนตัวเราเป็นงูตัวนั้น ภาพยังไม่ชัดเจนว่าเป็นงูอะไร จู่ ๆ คิดว่าไม่ควรสนใจ เลยกลับภาวนาต่อ ก็มีเสียงบอกว่า "ถ้าไม่สนใจ ต่อไปจะไม่ได้เห็นแล้วนะ" เลยนึกตอบเขากลับไปว่า "ไม่เห็นก็ดี จะได้ไม่เหนื่อย" พอตอบเขาไปแล้วก็กลับไปภาวนาต่อ หลังจากนั้นก็ยังเห็นภาพงูในน้ำลักษณะเดียวกันอีก แต่ก็ตัดใจไม่สนใจ สรุปว่าเสียงที่มาบอกในสมาธิครั้งแรกนี่เขาจะหลอกเราให้เราสนใจใช่หรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่ต้องสงสัย ยิ่งกว่าใช่เสียอีก |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:36 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.