![]()  | 
	
		
 ฝากคำถามถึงหลวงพ่อค่ะ 
		
		
		๑.พระโพธิสัตว์สามารถสำเร็จถึงสัจจานุโลมิกญาณหรือไม่ 
	๒.บางครั้งที่พระพุทธเจ้าไม่มาตรัสรู้เป็นอสงไขยมหากัป วิปัสสนาญาณของพระโพธิสัตว์ที่เคยได้เสื่อมลงหรือไม่ ๓.การภาวนาจนตัดหลับกับการเคลิ้มหลับธรรมดามีข้อสังเกตถึงความแตกต่างอย่างไร ๔.บางครั้งเวลาคิดในสิ่งที่ไม่ได้อยากจะคิด ไม่ว่าพยายามบอกตัวเองให้หยุดโดยออกเสียงหรือเอาเล็บจิกตัวเองความคิดนั้นก็ยังคงคิดต่อไป ความคิดเหล่านั้นเป็นของเราหรือไม่ และการพยายามห้ามแบบนี้แล้วแต่ความคิดนั้นไม่หยุดถือว่าเราไม่ยอมตามแล้วจะไม่บาปตามความคิดเหล่านั้นใช่หรือไม่ ๕.อยากร่วมทำบุญหล่อหลวงพ่อเงินองค์ที่จะแห่แทนหลวงพ่อทองคำไม่ทราบว่าบริจาคปัจจัยทางใดบ้าง ๖.ขอความอนุเคราะห์สูตรยารักษาเส้นเลือดขอดจากหลวงพ่อ  | 
		
 ถาม :  พระโพธิสัตว์สามารถสำเร็จถึงสัจจานุโลมิกญาณหรือไม่ ? 
	ตอบ : ไม่ได้ เพราะว่าสัจจานุโลกมิกญาณ เป็นญาณที่พิจารณาอริยสัจอย่างถ่องแท้แล้ว ถ้าได้อย่างนั้นก็จะเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว นักวิชาการสมัยใหม่ที่ไม่รู้ เขานับเอามรรคญาณ ผลญาณเท่านั้นถึงจะถือว่าเป็นพระอริยเจ้า ความจริงเป็นตั้งแต่สังขารุเปกขาญาณแล้ว ถาม : บางครั้งที่พระพุทธเจ้าไม่มาตรัสรู้เป็นอสงไขยมหากัป วิปัสสนาญาณของพระโพธิสัตว์ที่เคยได้จะเสื่อมลงหรือไม่ ? ตอบ : พระโพธิสัตว์คือปุถุชน กำลังใจยังเข้าไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้า ดังนั้น...ของท่านมีขึ้นมีลง มีเสื่อมมีได้เป็นปกติ  | 
		
 ถาม : การภาวนาจนตัดหลับกับการเคลิ้มหลับธรรมดา  มีข้อสังเกตถึงความแตกต่างอย่างไร ? 
	ตอบ : สังเกตง่ายมาก เพราะว่าเราภาวนาถึงหลับ นั่นคือการตัดหลับ แต่ถ้าไม่ได้ภาวนาแล้วหลับ นั่นคือการเคลิ้มหลับปกติ  | 
		
 ถาม :  อยากร่วมทำบุญหล่อหลวงพ่อเงินองค์ที่จะแห่แทนหลวงพ่อทองคำ  ไม่ทราบว่าบริจาคปัจจัยทางใดบ้าง ? 
	ตอบ : อันดับที่ ๑ มาบริจาคที่บ้านเติมบุญ อันดับที่ ๒ มาบริจาคที่วัดท่าขนุน อันดับที่ ๓ เปิดเว็บดูบัญชีวัดท่าขนุน โอนเข้าไปแล้วลงกระทู้แจ้งว่าร่วมสร้างหลวงพ่อเงิน แต่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีหลายท่านที่ส่งธนาณัติไปวัดเป็นประจำ ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้วิธีโอนเงิน แปลกดีเหมือนกัน และมีบางท่านโอนเงินทำบุญ ๒๐ บาท โดนหักค่าธรรมเนียม ๒๕ บาท..! เพราะว่าโอนต่างธนาคาร ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ โชคดีที่ตอนนี้เขาปลดล็อก ถ้าไม่ปลดล็อกก็ยังคงเสียค่าธรรมเนียมต่อไป  | 
		
 ถาม : บางครั้งเวลาคิดในสิ่งที่ไม่ได้อยากจะคิด ไม่ว่าพยายามบอกตัวเองให้หยุดโดยออกเสียงหรือเอาเล็บจิกตัวเอง  ความคิดนั้นก็ยังคงคิดต่อไป ความคิดเหล่านั้นเป็นของเราหรือไม่ ?   
	ตอบ : ต่อไปอย่าเอาเล็บจิกตัวเอง สมัยนี้เขาให้จิกหมอน ไม่รู้เรื่องเลยหรือ..? ความคิดนั้นเป็นความคิดของเราเอง แต่สติสมาธิไม่พอ เราก็เลยหยุดยั้งไม่ได้ เพราะว่า รัก โลภ โกรธ หลง เป็นตัวชักนำให้คิด ในเมื่อ รัก โลภ โกรธ หลง มีกำลังเหนือกว่า เราหยุดยั้งไม่ได้ก็ต้องหาวิธีอื่น อย่างเช่นไปทำงานหรือวิ่งขึ้นภูเขาเสียให้เข็ด เดี๋ยวพอร่างกายเหนื่อย ไปไม่รอด เราก็ดึงกลับมาคิดสิ่งที่ดี ๆ ได้ ถาม : การพยายามห้ามแบบนี้แล้วแต่ความคิดนั้นไม่หยุด ถือว่าเราไม่ยอมตาม แล้วจะไม่บาปตามความคิดเหล่านั้นใช่หรือไม่ ? ตอบ : ถ้ายังมีสติรู้อยู่ ก็แปลว่ากรรมนั้นยังไม่ใช่ของเรา ถ้าขาดสติไปเมื่อไรก็จะเป็นมโนกรรมไปเต็ม ๆ  | 
		
 ถาม :  ขอความอนุเคราะห์สูตรยารักษาเส้นเลือดขอดจากหลวงพ่อ ? 
	ตอบ : โดยปกติเขาให้ผ่าตัด สูตรยารักษาเส้นเลือดขอดต้องรักษาตั้งแต่ก่อนเป็น ก็คืออย่าใส่รองเท้าที่รัดแน่น อย่าใช้งานเท้าของเรามากจนเกินไป เช่น ยืนทีเป็นวัน ๆ เป็นต้น ไม่ใช่เป็นแล้วมารักษา เป็นแล้วต้องผ่าอย่างเดียว  | 
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:36 | 
	
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน 
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.