![]() |
ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า
กตัตตากรรม เป็นกรรมที่ทำโดยไม่เจตนา จะมีกำลังในการให้ผลที่น้อยที่สุด ถ้ากรรมอื่นไม่แสดงผลเมื่อไร กตัตตากรรมนี้ถึงจะโผล่มา ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จจากปาวาลเจดีย์ไปเมืองกุสินารา เดินได้ระยะทาง ๖๐ โยชน์ หมดพระกำลัง กระหายน้ำ จึงขอให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาให้ ปรากฏว่าขบวนเกวียน ๕๐๐ เล่ม เพิ่งจะลุยน้ำผ่านไป น้ำขุ่นเป็นโคลนเลย พระอานนท์กลับมารายงานว่าไม่มีน้ำ พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ไปดูใหม่เถอะ น้ำนั้นมีอยู่" ทั้ง ๆ ที่พระอานนท์เห็นกับตาตัวเอง แต่ด้วยความเคารพต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเดินย้อนกลับไป ปรากฏว่าน้ำที่ขุ่นอยู่กลายเป็นน้ำใสไปได้ จึงจัดการกรองน้ำมาถวายพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าเสวยแล้ว ก็ตรัสถึงบุพกรรมที่พระองค์ท่านได้ทำเอาไว้ ตรัสถึงชาติที่พระองค์เกิดมาเป็นลูกชาวนา ไปช่วยพ่อไถนาทั้งวัน ปลดวัวออกจากแอกได้ก็พาวัวไปกินน้ำ เนื่องจากวัวหิวน้ำมาทั้งวัน พอเจอน้ำก็รี่เข้าใส่ ท่านเห็นว่าน้ำตรงที่วัวจะกินนั้นขุ่น จึงรั้งวัวให้มากินน้ำด้านที่ใส เป็นกรรมที่ทำโดยเจตนาดี แต่ก็จัดเป็นกตัตตากรรม ตรงที่ทำให้วัวได้กินน้ำช้า ขณะพระองค์ท่านบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใกล้จะปรินิพพานแล้ว กรรมก็ยังตามมาทัน พระองค์ท่านจึงได้ตรัสเอาไว้ว่า อย่าไปประมาทว่า กรรมชั่วเพียงเล็กน้อยแล้วไปกระทำ ขณะเดียวกันอย่าไปประมาทว่า กรรมดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่ทำ กรรมนั้นจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ถ้าถึงวาระถึงเวลาก็ต้องส่งผลให้ผู้กระทำนั้นเสมอ อกตํ ทุกกฏํ เสยฺโย ความชั่วไม่ทำเสียเลยดีกว่า กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๑๖๕ (หน้า ๓๗-๓๘) เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:13 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.